ฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2559
ฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2559 | |
---|---|
แผนที่สรุปฤดูกาล | |
ขอบเขตฤดูกาล | |
ระบบแรกก่อตัว | 7 มกราคม พ.ศ. 2559 (สถิติก่อตัวเร็วที่สุด) |
ระบบสุดท้ายสลายตัว | 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 |
พายุมีกำลังมากที่สุด | |
ชื่อ | ซีมอร์ |
• ลมแรงสูงสุด | 150 ไมล์/ชม. (240 กม./ชม.) (เฉลี่ย 1 นาที) |
• ความกดอากาศต่ำที่สุด | 943 มิลลิบาร์ (hPa; 27.85 inHg) |
สถิติฤดูกาล | |
พายุดีเปรสชันทั้งหมด | 23 ลูก |
พายุโซนร้อนทั้งหมด | 22 ลูก |
พายุเฮอริเคน | 13 ลูก |
พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ (ระดับ 3 ขึ้นไป) | 6 ลูก |
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด | 11 คน |
ความเสียหายทั้งหมด | 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงิน USD ปี 2016) |
ฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2559 เป็นฤดูกาลในอดีต ที่เคยมีการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนภายในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออก ในวันที่ 7 มกราคม พายุเฮอริเคนปาลี ก่อตัวขึ้นภายในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง และถูกบันทึกเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวเร็วที่สุดภายในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง[1] โดยฤดูกาลนี้จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก และวันที่ 1 มิถุนายน ในตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก และไปจบลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน นี่เป็นขอบเขตระยะเวลาที่มีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวมากที่สุดในแอ่งแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่พายุหมุนเขตร้อนสามารถก่อตัวขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งอธิบายได้โดยพายุโซนร้อนปาลี
ภาพรวมฤดูกาล[แก้]
พายุ[แก้]
พายุเฮอริเคนปาลี[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 2 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 7 – 15 มกราคม | ||
ความรุนแรง | 100 ไมล์/ชม. (155 กม./ชม.) (1 นาที) 977 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.85 นิ้วปรอท) |
ฤดูกาล พ.ศ. 2559 นี้ เริ่มต้นด้วยเศษที่หลงเหลือของพายุดีเปรสชันเขตร้อนเก้าซี ซึ่งถูกทิ้งไว้เป็นบริเวณชื้นขนาดใหญ่เบื้องหลัง ในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตร การเปลี่ยนเป็นลมตะวันตกอย่างฉับพลันที่มีประสิทธิภาพ เป็นคุณลักษณะทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง ซึ่งกระตุ้นการก่อกำเนิดของพายุหมุนภายในการแปรปรวน ผลที่ได้คือการก่อตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำ สาเหตุมาจากอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ ที่ประมาณ 29.5°ซ (85.1°ฟ)
- วันที่ 7 มกราคม ระบบรวมตัวกันก่อตัวเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน นี่แสดงให้เห็นถึงการก่อตัวของพายุลูกแรกที่เร็วที่สุดที่เคยบันทึกได้ในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ซึ่งเร็วกว่าพายุโซนร้อนวิโนนาในฤดูกาลปี พ.ศ. 2532 เพียง 6 วัน[2] ในไม่ช้า ระบบก็ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้รับชื่อ ปาลี กลายเป็นระบบพายุลูกที่ก่อตัวเร็วที่สุดเท่า ที่เคยบันทึกได้ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ[3]
- วันที่ 11 มกราคม พายุได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 1 และกลายเป็นพายุเฮอริเคนลูกที่ก่อตัวเร็วที่สุด เท่าที่เคยบันทึกไว้ในแอ่งแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำแหน่งนี้เป็นของ พายุเฮอริเคนเอเกกา เมื่อ พ.ศ. 2535[4] ปาลีเคลื่อนตัวลงมาต่ำที่สุดที่ละติจูด 2.0°น ทำให้ถูกบันทึกเป็นพายุในซีกโลกตะวันตกที่อยู่ในละติจูดต่ำสุด ต่ำกว่าที่พายุดีเปรสชันเขตร้อนเก้าซีเคยทำไว้ที่ 2.2°น ในช่วงสองสัปดาห์ก่อน[5][6]
พายุดีเปรสชันเขตร้อนหนึ่ง-อี[แก้]
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 6 – 8 มิถุนายน | ||
ความรุนแรง | 35 ไมล์/ชม. (55 กม./ชม.) (1 นาที) 1006 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.71 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 4 มิถุนายน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ เริ่มเฝ้าระวังพื้นที่ที่เป็นไปได้ของการพัฒนา[7] อีกไม่กี่วันถัดมา ความน่าจะเป็นของการก่อตัวของพายุลดลงในระดับต่ำ
- วันที่ 6 มิถุนายน เหนือความคาดหมาย พายุดีเปรสชันหนึ่ง-อีก่อตัวขึ้น และเริ่มมีการออกการเฝ้าระวัง[8][9] นำให้รัฐบาลของเม็กซิโกได้ออกประกาศการเฝ้าระวังพายุโซนร้อนกับชายฝั่งทะเล[10]
- วันที่ 7 มิถุนายน พายุอ่อนกำลังลง ดังนั้นทำให้การเฝ้าระวังถูกยกเลิก[11]
- วันที่ 8 มิถุนายน ในช่วงต้นของวันพายุได้ขึ้นฝั่งเม็กซิโกใกล้กับอ่าวเตฮวนเตเปคและสลายตัวไป[12]
ขณะที่มาตรการป้องกัน มีการเปิดสถานที่อพยพชั่วคราวทั่วรัฐเชียปัส[13] พายุดีเปรสชันเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยทั่วรัฐวาฮากา โดยแรกเริ่มภายในเทศบาลซาลีนากรูซ ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในถนนบางสาย และหลุมยุบทำให้บ้านเรือนเสียหายหนึ่งหลังคาเรือน[14]
พายุโซนร้อนแอทากา[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 2 – 5 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 45 ไมล์/ชม. (75 กม./ชม.) (1 นาที) 1003 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.62 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 1 กรกฎาคม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) เริ่มเฝ้าติดตามพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ของการก่อตัว ซึ่งมีการจัดระบบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว[15]
- วันที่ 2 กรกฎาคม อีกเจ็ดชั่วโมงต่อมา หย่อมความกดอากาศต่ำทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนสอง-อี ระบบมีการจัดระบบที่รวดเร็วมาก ซึ่งต่อมา NHC ได้เพิ่มความรุนแรงของสอง-อีเป็นพายุโซนร้อน และใช้ชื่อ แอทากา[16]
- วันที่ 3 กรกฎาคม แอทากามีกำลังแรงสูงสุด[17] ที่ความเร็วลม 45 ไมล์/ชั่วโมง หลังจากนั้นไม่นาน แอทากาก็เริ่มอ่อนกำลังลงเล็กน้อย ขณะที่ยังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก
- วันที่ 5 กรกฎาคม แอทากากลายเป็นพายุหมุนนอกเขตร้อน[18]
พายุเฮอริเคนบลัส[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 3 – 10 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 140 ไมล์/ชม. (220 กม./ชม.) (1 นาที) 947 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.96 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 27 มิถุนายน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (NHC) ได้จับเฝ้าติดตามคลื่นอากาศในเขตร้อน เหนือทวีปอเมริกากลางสำหรับความเป็นไปได้ในการพัฒนา[19]
- วันที่ 30 มิถุนายน หย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นทางใต้ของเม็กซิโก[20]
- วันที่ 3 กรกฎาคม พายุมีความได้เปรียบเพียงพอในการจัดระบบ และกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนสาม-อี[21] หกชั่วโมงถัดมา ท่ามกลางภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยด้วยอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูง และลมเฉือนแนวตั้งที่น้อยลง ทำให้มันทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนและได้รับชื่อ บลัส[22]
- วันที่ 4 กรกฎาคม พายุยังคงทวีกำลังแรงขึ้นอย่างคงตัว เป็นผลให้บลัสทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคน[23] ต่อมาการทวีกำลังแรงชะงักลงในส่วนที่เหลือของวัน เนื่องจากอากาศแห้งได้ไหลเข้าสู่การหมุนเวียน[24]
- วันที่ 5 กรกฎาคม อย่างไรก็ตาม บลัสเริ่มแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ลูกแรงของฤดูกาลในช่วงเย็นของวัน[25]
- วันที่ 6 กรกฎาคม บลัส มีกำลังแรงสูงสุดในความรุนแรงพายุเฮอริเคนระดับ 4[26] ต่อมาบลัส ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 3 ก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปเป็นพายุหมุนเขตร้อนรูปวงแหวน และมีความรุนแรงต่อไป[27] อย่างไรก็ตาม บลัสได้เคลื่อนผ่านเหนือพื้นที่อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลลดลง
- วันที่ 7 กรกฎาคม เป็นผลให้มันมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงอย่างช้า ๆ ซึ่งบลัสได้อ่อนกำลังลงจนมีสถานะต่ำกว่าพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ในช่วงสายของวัน[28]
- วันที่ 8 กรกฎาคม บลัสอ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 1[29]
- วันที่ 9 กรกฎาคม บลัสอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน[30] การอ่อนกำลังลงถูกเร่งท่ามกลางมวลอากาศที่เสถียรและการเพิ่มขึ้นของลมเฉือนแนวตะวันตกเฉียงใต้[31]
- วันที่ 10 กรกฎาคม เหนือทะเลที่มีอุณหภูมิพื้นผิวที่ 24 °ซ (75 °ฟ)[32] บลัส อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน และเสื่อมลงเป็นพายุหมุนนอกเขตร้อนหลังจากนั้นอย่างรวดเร็ว[33]
ความชื้นที่เกี่ยวข้องกับเศษที่เหลือของบลัสทำให้เกิดฝนตกในฮาวาย[34]
พายุเฮอริเคนซีเลีย[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 2 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 6 – 16 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 100 ไมล์/ชม. (155 กม./ชม.) (1 นาที) 972 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.7 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 2 กรกฎาคม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติเริ่มเฝ้าระวังพื้นที่ความเป็นไปได้ในการก่อตัว[35]
- วันที่ 6 กรกฎาคม ทางศูนย์ ฯ บันทึกว่า "พายุดีเปรสชันเขตร้อนดูเหมือนจะก่อตัวภายในอีกสองวัน"[36]
- วันที่ 7 กรกฎาคม พายุดีเปรสชันเขตร้อนสี่-อีกก่อตัว[37]
- วันที่ 8 กรกฎาคม มันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้ชื่อ ซีเลีย
- วันที่ 10 กรกฎาคม ซีเลียได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคน[38]
- วันที่ 11 กรกฎาคม ซีเลียทวีกำลังแรงเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 2 และยังคงความรุนแรงต่อไปอีกสองวัน[39]
- วันที่ 14 กรกฎาคม ซีเลียเริ่มอ่อนกำลังลงที่ความรวดเร็ว จนกลายเป็นพายุโซนร้อน
- วันที่ 15 กรกฎาคม ซีเลียเคลื่อนตัวเข้าสู่แอ่งแปซิฟิกกลางและอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน
- วันที่ 16 กรกฎาคม ซีเลียสลายตัวลง[40]
- วันที่ 17 กรกฎาคม ศูนย์เฮอริเคนแปซิฟิกกลาง บันทึกว่า ความกดอากาศต่ำมีโอกาสที่จะฟื้นฟูเป็นพายุหมุนเขตร้อน[41] ซึ่งต่อมา ซีเลียล้มเหลวในการก่อตัวอีกครั้ง และล้มเหลวในการฟื้นฟูเป็นพายุหมุนเขตร้อน
พายุเฮอริเคนดาร์บี[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 3 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 11 – 26 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 115 ไมล์/ชม. (185 กม./ชม.) (1 นาที) 962 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.41 นิ้วปรอท) |
ในสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคม มีระบบหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวถึง 5 หย่อมในแปซิฟิกตะวันออก โดยหย่อมที่ 4 จากทั้งหมดถูกบันทึกโดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ
- วันที่ 9 กรกฎาคม หย่อมนั้นตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวย อาจก่อตัวและกลายเป็นพายุโซนร้อนได้[42]
- วันที่ 11 กรกฎาคม หย่อมความกดอากาศทวีกำลังแรงเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนห้า-อี[43]
- วันที่ 12 กรกฎาคม ห้า-อี ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้รับชื่อว่า ดาร์บี
- วันที่ 13 กรกฎาคม ดาร์บีบรรลุความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคน
- วันที่ 15 กรกฎาคม ระบบทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 2
- วันที่ 16 กรกฎาคม ถึงอย่างไรก็ตามแม้ระบบเคลื่อนไปเหนือน้ำเย็น ดาร์บียังทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 3 อย่างไรก็ตาม 6 ชั่วโมงหลังจากนั้น ดาร์บีอ่อนกำลังลงกลับไปเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 2[44] อีกสี่วัดถัดไป ดาร์บีอ่อนกำลังลงอีกเหนือน้ำเย็นเป็นพายุโซนร้อนโดยเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก มุ่งสู่รัฐฮาวาย ขณะที่มันเข้าใกล้พื้นที่ มันได้ทวีกำลังอีกครั้ง ทำให้มีการใช้การเฝ้าระวังและเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนโดยทันทีบนหมู่เกาะฮาวาย[45]
- วันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 00:00 UTC มันได้ขึ้นฝั่งเข้าใกล้ปาฮาลาบนเกาะใหญ๋[46] และเคลื่อนผ่านเกาะไปเกาะในระดับพายุโซนร้อนกำลังอ่อน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พายุเฮอริเคนอิซเซลในฤดูกาล 2557
พายุโซนร้อนเอสเทลล์[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 15 – 22 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 70 ไมล์/ชม. (110 กม./ชม.) (1 นาที) 990 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.23 นิ้วปรอท) |
ในแนวต่อเนื่องของพายุหมุนเขตร้อนด้วยเส้นทางที่เหมือนกัน หย่อมความกดอากาศต่ำได้กลายเป็นพายุโซนร้อนเอสเทลล์
- วันที่ 15 กรกฎาคม หย่อมความกดอากาศต่ำทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนหก-อี[47]
- วันที่ 16 กรกฎาคม พายุโซนร้อนลูกที่ห้าแห่งฤดูกาลแปซิฟิกตะวันออกก่อตัวขึ้น และได้ชื่อว่า เอสเทลล์[48]
- วันที่ 18 กรกฎาคม เอสเทลล์มีความรุนแรงขึ้นโดยมีความเร็วลม 70 ไมล์/ชม. (115 กม./ชม.) โดยมีสถานะล่างกว่าพายุเฮอริเคน อย่างไรก็ตามมันได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อย[49]
- วันที่ 20 กรกฎาคม เอสเทลล์ยังคงความรุนแรงอยู่ อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ไม่ได้บอกว่ามันจะทวีกำลังแรงเป็นพายุเฮอริเคน และเริ่มอ่อนกำลังเหนือน้ำเย็นทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮาวาย[50]
- วันที่ 22 กรกฎาคม เอสเทลล์อ่อนกำลังลงโดยมีความเร็วลมที่ 40 ไมล์/ชม. (65 กม./ชม.) และสลายตัวไปในที่สุด[51]
พายุเฮอริเคนแฟรงก์[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 21 – 28 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 85 ไมล์/ชม. (140 กม./ชม.) (1 นาที) 979 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.91 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 21 กรกฎาคม หย่อมความกดอากาศต่ำใกล้กับชายฝั่งเม็กซิโกจัดระบบเป็นพายุโซนร้อน[52] โดย NHC เพิ่มความรุนแรงของระบบเป็นพายุโซนร้อนโดยตรงในการเฝ้าระวังฉบับแรก โดยใช้ชื่อ แฟรงก์ โดยข้ามขั้นตอนการเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนไป[53] หลังจากวันนั้นแฟรงก์ได้เคลื่อนตัวออกห่างจากคาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย ถึงอย่างไรก็ตามการคาดการณ์การทวีกำลังแรงขึ้น แฟรงก์จะเอื้อมไม่ถึงสถานะพายุเฮอริเคน
- วันที่ 26 กรกฎาคม กระทั่งวันที่ 26 กรกฎาคม ใกล้กับที่พายุจอร์เจตต์อ่อนกำลังลง ถึงอย่างไรก็ตาม แฟรงก์ก็กลายเป็นพายุลูกที่ห้าในการบันทึกซึ่งก่อตัวในเดือนกรกฎาคมของเฮอริเคนแปซิฟิก โดยครั้งก่อนหน้าถูกบันทึกไว้าที่ 4 และถูกตั้งเป็น 5 ในฤดูกาลก่อนหน้า[54]
พายุเฮอริเคนจอร์เจตต์[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 21 – 27 กรกฎาคม | ||
ความรุนแรง | 130 ไมล์/ชม. (215 กม./ชม.) (1 นาที) 952 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.11 นิ้วปรอท) |
- วันที่ 21 กรกฎาคม ระหว่างพายุเอสเทลล์ และ พายุแฟรงก์ มีพายุดีเปรสชันก่อตัวอีกลูกหนึ่ง และอีกสองชั่วโมงถัดมา พายุดีเปรสชันเขตร้อนทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้รับชื่อ จอร์เจตต์ และเป็นพายุโซนร้อนลูกที่เจ็ดที่ก่อตัวในเดือนกรกฎาคม[55][56] และถูกบันทึกร่วมกับฤดู 2528 และ 2558
- วันที่ 24 กรกฎาคม จอร์เจตต์กลายเป็นพายุเฮอริเคน และกลายเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 4 อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจอร์เจตต์อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเพราะน้ำเย็น และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนในวันถัดมา
พายุโซนร้อนฮาวเวิร์ด[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม | ||
ความรุนแรง | 60 ไมล์/ชม. (95 กม./ชม.) (1 นาที) 998 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.47 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนอีเวตต์[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 2 – 8 สิงหาคม | ||
ความรุนแรง | 60 ไมล์/ชม. (95 กม./ชม.) (1 นาที) 1000 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.53 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนฆาบิเอร์[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 7 – 9 สิงหาคม | ||
ความรุนแรง | 65 ไมล์/ชม. (100 กม./ชม.) (1 นาที) 997 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.44 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนเคย์[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 18 – 23 สิงหาคม | ||
ความรุนแรง | 50 ไมล์/ชม. (85 กม./ชม.) (1 นาที) 1000 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.53 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนเลสเตอร์[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 24 สิงหาคม – 7 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 145 ไมล์/ชม. (230 กม./ชม.) (1 นาที) 944 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.88 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนแมเดลิน[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 26 สิงหาคม – 3 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 130 ไมล์/ชม. (215 กม./ชม.) (1 นาที) 950 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.05 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนนิวตัน[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 4 – 7 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 90 ไมล์/ชม. (150 กม./ชม.) (1 นาที) 977 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.85 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนออร์ลีน[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 2 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 11 – 17 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 110 ไมล์/ชม. (175 กม./ชม.) (1 นาที) 967 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.56 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนเพน[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 18 – 20 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 90 ไมล์/ชม. (150 กม./ชม.) (1 นาที) 979 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 28.91 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนรอสลิน[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 25 – 29 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 50 ไมล์/ชม. (85 กม./ชม.) (1 นาที) 999 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.5 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนอูลีกา[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 26 – 30 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 75 ไมล์/ชม. (120 กม./ชม.) (1 นาที) 992 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.29 นิ้วปรอท) |
พายุเฮอริเคนซีมอร์[แก้]
พายุเฮอริเคนระดับ 4 (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 23 – 28 ตุลาคม | ||
ความรุนแรง | 150 ไมล์/ชม. (240 กม./ชม.) (1 นาที) 940 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.76 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนทีนา[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 13 – 14 พฤศจิกายน | ||
ความรุนแรง | 40 ไมล์/ชม. (65 กม./ชม.) (1 นาที) 1004 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.65 นิ้วปรอท) |
พายุโซนร้อนออตโต[แก้]
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 25 (เข้ามาในแอ่ง) – 26 พฤศจิกายน | ||
ความรุนแรง | 70 ไมล์/ชม. (110 กม./ชม.) (1 นาที) 993 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 29.32 นิ้วปรอท) |
รายชื่อพายุ[แก้]
รายชื่อต่อไปนี้ ใช้สำหรับการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือในปี พ.ศ. 2559 สำหรับการปลดชื่อ ถ้ามีจะได้รับการประกาศโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในฤดูใบไม้ผลิของปี พ.ศ. 2560 ซึ่งชื่อที่ไม่ถูกปลด จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในปีฤดูกาล พ.ศ. 2565[57]และนี่ก็เป็นรายการชื่อเดียวกันกับที่เคยใช้ไปในฤดูกาล พ.ศ. 2553
|
|
|
สำหรับพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นเขตรับผิดชอบของศูนย์เฮอริเคนมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง 140 องศาตะวันตกถึงเส้นแบ่งวันสากล โดยชื่อทั้งหมดจะถูกใช้หมุนวนสี่รายการ อีกสี่ชื่อจะถูกแสดงด้านล่าง
|
|
|
|
ผลกระทบ[แก้]
ตารางนี้แสดงพายุทั้งหมดที่ก่อตัวในปี พ.ศ. 2559 ซึ่งรวมระยะเวลาการก่อตัว, ชื่อ, บนบก–แสดงชื่อสถานที่เป็นตัวหนา– , ความเสียหาย และจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ส่วนการเสียชีวิตในวงเล็บคือการเสียชีวิตเพิ่มเติมและทางอ้อม (เช่นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนน) แต่ที่เกี่ยวข้องกับพายุโดยตรงยังคงที่ ความเสียหายและการเสียชีวิตรวมถึงขณะที่พายุกลายเป็นเอ็กซ์ตราทรอปิคอล, คลื่น ความเสียหายทั้งหมดนับเป็นดอร์ล่าสหรัฐ ค่าเงินปี ค.ศ. 2016
ชื่อ พายุ |
วันที่ | ระดับความรุนแรง ขณะมีความรุนแรงสูงสุด |
ลมสูงสุด 1-นาที ไมล์/ชม. (กม./ชม.) |
ความกดอากาศ (มิลลิบาร์) |
พื้นที่ได้รับผลกระทบ | ความเสียหาย (ดอลลาร์สหรัฐ) |
เสียชีวิต | อ้างอิง
| |||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปาลี | 7 – 15 มกราคม | พายุเฮอริเคนระดับ 2 | 100 (155) | 977 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
หนึ่ง-อี | 6 – 8 มิถุนายน | พายุดีเปรสชันเขตร้อน | 35 (55) | 1006 | เม็กซิโกตะวันตกเฉียงใต้ | ไม่มี | ไม่มี | ||||
แอกาทา | 2 – 5 กรกฎาคม | พายุโซนร้อน | 45 (75) | 1003 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
บลัส | 3 – 10 กรกฎาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 4 | 140 (220) | 947 | รัฐฮาวาย | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ซีเลีย | 6 – 16 กรกฎาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 2 | 100 (155) | 972 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ดาร์บี | 11 – 26 กรกฎาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 3 | 115 (185) | 962 | รัฐฮาวาย | ไม่มี | ไม่มี | ||||
อิสเทลล์ | 15 – 22 กรกฎาคม | พายุโซนร้อน | 70 (110) | 990 | หมู่เกาะเรบียาคีเคโด | ไม่มี | ไม่มี | ||||
แฟรงก์ | 21 – 28 กรกฎาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 1 | 85 (140) | 979 | คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย, หมู่เกาะเรบียาคีเคโด |
ไม่มี | ไม่มี | ||||
จอร์เจตต์ | 21 – 27 กรกฎาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 4 | 130 (215) | 952 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ฮาวเวิร์ด | 31 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม | พายุโซนร้อน | 60 (95) | 998 | รัฐฮาวาย | ไม่มี | ไม่มี | ||||
อีเวตต์ | 2 – 8 สิงหาคม | พายุโซนร้อน | 60 (95) | 1000 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ฆาบิเอร์ | 7 – 9 สิงหาคม | พายุโซนร้อน | 65 (100) | 997 | เม็กซิโกตะวันตก, เม็กซิโกตะวันตกเฉียงเหนือ, คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย | เล็กน้อย | ไม่มี | ||||
เคย์ | 18 – 23 สิงหาคม | พายุโซนร้อน | 50 (85) | 1000 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
เลสเตอร์ | 24 สิงหาคม – 7 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 4 | 145 (230) | 944 | รัฐฮาวาย | ไม่มี | ไม่มี | ||||
แมเดลิน | 26 สิงหาคม – 3 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 4 | 130 (215) | 950 | รัฐฮาวาย | เล็กน้อย | ไม่มี | ||||
นิวตัน | 4 – 7 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 1 | 90 (150) | 977 | คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย, เม็กซิโกตะวันตกเฉียงเหนือ, ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ | 96 ล้าน | 9 | ||||
ออร์ลีน | 11 – 17 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 2 | 110 (175) | 967 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
เพน | 18 – 21 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 1 | 90 (150) | 979 | คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย, ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ | ไม่ทราบ | ไม่มี | ||||
รอสลิน | 25 – 29 กันยายน | พายุโซนร้อน | 50 (85) | 999 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
อูลีกา | 26 – 30 กันยายน | พายุเฮอริเคนระดับ 1 | 75 (120) | 992 | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ซีมอร์ | 23 – 28 ตุลาคม | พายุเฮอริเคนระดับ 4 | 150 (240) | 940 | คาบสมุทรบาฮากาลีฟอร์เนีย | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ทีนา | 13 – 14 พฤศจิกายน | พายุโซนร้อน | 40 (65) | 1004 | เม็กซิโกตะวันตก | ไม่มี | ไม่มี | ||||
ออตโต | 25 – 26 พฤศจิกายน | พายุโซนร้อน | 70 (110) | 993 | ไม่มี (หลังจากข้ามแอ่งมาแล้ว) | ไม่มี | ไม่มี | ||||
สรุปฤดูกาล | |||||||||||
9 ลูก | 7 มกราคม – 26 พฤศจิกายน | 150 (240) | 940 | 96 ล้าน | 11 |
ดูเพิ่ม[แก้]
- รายชื่อฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก
- ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2559
- ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2559
- ฤดูพายุไซโคลนมหาสมุทรอินเดียเหนือ พ.ศ. 2559
- ฤดูพายุไซโคลนมหาสมุทรอินเดียตะวันตก-ใต้: 2558–2559, 2559–2560
- ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย: 2558-2559, 2559-2560
- ฤดูพายุไซโคลนแปซิฟิกใต้: 2558-2559, 2559-2560
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Pali Becomes Earliest Central Pacific Tropical Storm on Record
- ↑ Bob Henson (January 7, 2016). "Rare January Depression in Central Pacific; Atlantic Subtropical Storm Next Week?". Weather Underground. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-25. สืบค้นเมื่อ January 9, 2016.
- ↑ Bob Henson (January 8, 2016). "Warm, Wet Year for U.S.; Record Heat in South Africa; Tropical Storm Pali Intensifies". Weather Underground. สืบค้นเมื่อ January 9, 2016.
- ↑ "Hurricane Pali Discussion Number 19". 12 January 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-22.
- ↑ Erdman, John. "Tropical Depression Nine-C Dissipates; Caps Off a Record Central Pacific Hurricane Season". The Weather Channel. The Weather Channel. สืบค้นเมื่อ 6 January 2016.
- ↑ Ballard, R. "TROPICAL DEPRESSION PALI DISCUSSION NUMBER 30". National Weather Service. Central Pacific Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201606041745&basin=epac&fdays=2
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201606061745&basin=epac&fdays=2
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201606062035&basin=epac&fdays=2
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/2016/ep01/ep012016.public.001.shtml?
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/2016/ep01/ep012016.public.006.shtml?
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/text/refresh/MIATCPEP1+shtml/081434.shtml?
- ↑ Tuxtla Gutiérrez (9 มิถุนายน 2559). "Sin daños ni pérdidas humanas por depresión tropical en Chiapas" (ภาษาสเปน). Uno TV. Notimex. สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Depresión tropical 1-E provoca daños menores en Oaxaca" (ภาษาสเปน). Noticias MVS. Notimex. 8 มิถุนายน 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-01. สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Robbie J. Berg; Michael J. Brennan (July 1, 2016). "NHC Graphical Outlook Archive". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 2, 2016.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อagathaupgrade
- ↑ Stacy R. Stewart (July 3, 2016). "Tropical Storm Agatha Discussion Number 6". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Daniel Brown (July 4, 2016). "Tropical Storm Agatha Discussion Number 13". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Stacy R. Stewart (June 27, 2016). "Tropical Weather Outlook 1100 am PDT Mon Jun 27 2016". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Stacy R. Stewart (June 30, 2016). "Tropical Weather Outlook 1100 am PDT Thu Jun 30 2016". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Michael J. Brennan (July 3, 2016). "Tropical Depression Three-E Discussion Number 1". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Stacy R. Stewart (July 3, 2016). "Tropical Storm Blas Discussion Number 2". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Todd B. Kimberlain (July 4, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 7". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Todd B. Kimberlain (July 4, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 8". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Stacy R. Stewart (July 5, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 12". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 5, 2016.
- ↑ Cangialosi, John (July 6, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 13". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 10, 2016.
- ↑ Daniel P. Brown (July 6, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 15". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 10, 2016.
- ↑ David P. Roberts (July 7, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 21". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ Daniel P. Brown (July 8, 2016). "Hurricane Blas Discussion Number 24". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ Michael J. Brennan (July 9, 2016). "Tropical Storm Blas Discussion Number 26". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ John P. Cangialosi (July 9, 2016). "Tropical Storm Blas Discussion Number 27". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ Michael J. Brennan (July 10, 2016). "Tropical Depression Blas Discussion Number 30". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ John P. Cangialosi (July 10, 2016). "Post-Tropical Cyclone Blas Discussion Number 31". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ Dudley, Malika (July 15, 2016). "Increased Windward Showers From Remnants of Blas". mauinow.com. สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201606301159&basin=epac&fdays=2
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201607061441&basin=epac&fdays=2
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL DEPRESSION FOUR-E ADVISORY NUMBER 1". สืบค้นเมื่อ 16 July 2016.
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/2016/refresh/BLAS+shtml/144405.shtml?
- ↑ "Honolulu Star-Advertiser-Celia becomes category 2 hurricane as Tropical Depression Five-E forms". สืบค้นเมื่อ 16 July 2016.
- ↑ "West Hawaii Today-Celia weakens to tropical depression". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-07. สืบค้นเมื่อ 16 July 2016.
- ↑ http://www.prh.noaa.gov/cphc/
- ↑ http://www.nhc.noaa.gov/archive/xgtwo/gtwo_archive.php?current_issuance=201607100233&basin=epac&fdays=2
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL DEPRESSION FIVE-E ADVISORY NUMBER 1". สืบค้นเมื่อ July 16, 2016.
- ↑ "Hurricane DARBY Advisory Archive".
- ↑ "Hawaii News Now-Big Island, Maui, Oahu under Tropical Storm Warning; watch issued for Kauai". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-14. สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "Central Pacific Hurricane Center-TROPICAL STORM DARBY DISCUSSION NUMBER 50". สืบค้นเมื่อ 24 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL DEPRESSION SIX-E ADVISORY NUMBER 1". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL STORM ESTELLE ADVISORY NUMBER 3". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL STORM ESTELLE ADVISORY NUMBER 13". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL STORM ESTELLE ADVISORY NUMBER 18". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-POST-TROPICAL CYCLONE ESTELLE ADVISORY NUMBER 29". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL STORM FRANK DISCUSSION NUMBER 1". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ Robbie Berg (July 21, 2016). "Tropical Storm Frank Discussion Number 1". Miami, Florida: National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 21, 2016.
- ↑ Blake, Eric (July 26, 2016). "Hurricane Frank Discussion Number 20". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ July 27, 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL DEPRESSION EIGHT-E ADVISORY NUMBER 1". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "National Hurricane Center-TROPICAL STORM GEORGETTE ADVISORY NUMBER 4". สืบค้นเมื่อ 23 July 2016.
- ↑ "Tropical Cyclone Names". National Hurricane Center. National Oceanic and Atmospheric Administration. 2013-04-11. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-08. สืบค้นเมื่อ May 8, 2013.