อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาแห่งบรากังซา
| อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาแห่งบรากังซา | |||||
|---|---|---|---|---|---|
_-_att._Jos%C3%A9_Rodrigues_(Funda%C3%A7%C3%A3o_da_Casa_de_Bragan%C3%A7a).png) พระสาทิสลักษณ์ในปีพ.ศ. 2400 | |||||
| ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งโปรตุเกส | |||||
| ระหว่าง | 6 มีนาคม พ.ศ. 2369 – 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2371 | ||||
พระมหากษัตริย์ | |||||
| ถัดไป | อิงฟังตึมีแกล | ||||
| ประสูติ | 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2344 พระราชวังหลวงเกวลูซ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส | ||||
| สิ้นพระชนม์ | 22 เมษายน พ.ศ. 2419 (พระชนมายุ 74 พรรษา) เบนฟิกา ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส | ||||
| |||||
| ราชวงศ์ | บรากังซา | ||||
| พระราชบิดา | พระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส | ||||
| พระราชมารดา | เจ้าหญิงการ์โลตา โฆอากินาแห่งสเปน | ||||
อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาแห่งบรากังซา (4 กรกฎาคม พ.ศ. 2344 - 22 เมษายน พ.ศ. 2419)ทรงเป็นอิงฟังตาแห่งโปรตุเกส และเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกสกับเจ้าหญิงการ์โลตา โฆอากินาแห่งสเปน
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ[แก้]
พระนามเต็มของพระนางคือ อีซาแบล มารีอา เดอ กองเซเซา ฌูอานา กอลเบอร์ตา อานา ฟรังซิซกา เดอ อัซซิส เดอ เปาลา เดอ อัลกันตารา อันโตเนีย ราฟาเอลา มิคาเอลา กาเบรียลา โฌอากินา กองซากา เดอ บรากังซา อี บูร์บง พระนางทรงอยู่ในพระอิสริยยศ Great-Cross of the Order of Our Lady of Conception, คุณหญิงแห่งเครื่องราชอิศริยาภรณ์แห่งนักบุญอิซาเบล และคุณหญิงแห่งเครื่องราชอิศริยาภรณ์มารี หลุยส์ และทรงได้รับกางเขนดาวแห่งออสเตรีย
อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาแห่งบรากังซา ประสูติในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2344 ณ พระราชวังหลวงเกวลูซ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกสกับเจ้าหญิงการ์โลตา โฆอากินาแห่งสเปน
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์[แก้]
อันเนื่องมาจากเจ้าชายเปโดร ผู้ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระนางและรัชทายาทในราชบัลลังก์ ได้ประกาศเอกราชแก่บราซิล เจ้าชายมิเกล ผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระนางและถูกเนรเทศออกจากประเทศ ซึ่งประทับอยู่ในเวียนนา หลังจากก่อกบฏต่อพระราชบิดาล้มเหลว สมเด็จพระราชินีคาร์ลอตา โจวควินา พระราชมารดาทรงถูกกักบริเวณแต่ในพระราชวังหลวงเกวลูซ อันเนื่องมาจากทรงสนับสนุนเจ้าชายมิเกลก่อกบฏต่อต้านพระเจ้าโจเอา และพระเชษฐภคินีทั้งสองพระองค์ของพระนางคือ อิงฟังตามารีอา ตึเรซาและอิงฟังตามารีอา ฟรังซิซกาแห่งโปรตุเกส ได้อภิเษกสมรสกับอินฟันเตแห่งสเปน ซึ่งต่อมาทั้งสองพระองค์จะกลายเป็นฝ่ายต่อต้านอิงฟังตาอีซาแบล มารีอา
ในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 พระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส พระราชบิดาขณะเสด็จกลับจากพระอารามเฮียโรนิไมท์ และทรงเข้าบรรทมที่พระราชวังเบ็มโปสตาด้วยพระอาการน่าเป็นห่วง พระองค์ทรงเจ็บปวดทรมานหลายวันจากพระอาการต่างๆรวมทั้งอาเจียนและการสั่นอย่างรุนแรง พระองค์ทรงปรากฏองค์ด้วยพระพลานามัยที่ดีขึ้นแต่ด้วยความรอบคอบ พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งให้ อิงฟังตาอีซาแบล มารีอา พระราชธิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในกลางคืนของวันที่ 9 มีนาคม พระอาการประชวรของพระองค์กลับแย่ลงและเสด็จสวรรคตในเวลาประมาณ 5 โมงเช้าของวันที่ 10 มีนาคม สิริพระชนมายุ 58 พรรษา ผู้สำเร็จราชการทรงยอมรับในทันทีทันใดภายในรัฐบาลของโปรตุเกสและสมเด็จพระจักรพรรดิเปโดรทรงได้รับการยอมรับในฐานะองค์รัชทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายในฐานะ พระเจ้าเปโดรที่ 4 แห่งโปรตุเกส จากการศึกษาวิจัยพบว่า การสวรรคตของพระราชบิดาเกิดจากการรับสารพิษจำพวกสารหนูในปริมาณมาก
อย่างไรก็ตามสมเด็จพระจักรพรรดิเปโดรที่ 1 แห่งบราซิลหรือพระเจ้าเปโดรที่ 4 แห่งโปรตุเกส พระเชษฐาทรงสละราชบัลลังก์แก่อิงฟังตามารีอา ดา กลอเรียให้ครองราชบัลลังก์โปรตุเกสในพระนาม สมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 2 แห่งโปรตุเกส พระชนมายุ 7 พรรษา ผู้ซึ่งขณะนั้นทรงประทับอยู่ที่ลอนดอน ด้วยสถานะที่พระราชินีนาถมารีอาต้องอภิเษกสมรสกับอิงฟังตึมิเกล พระปิตุลา อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาทรงดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระภาติยะจนกระทั่งพ.ศ. 2371 เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเรียกว่า สงครามเสรีนิยม ระหว่างฝ่ายอัตตาธิปไตยซึ่งสนับสนุนให้อิงฟังตึมิเกลครองราชสมบัติในพระนาม สมเด็จพระเจ้ามิเกลแห่งโปรตุเกสกับฝ่ายเสรีนิยมซึ่งสนับสนุนสิทธิในราชบัลลังก์ของสมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 2 แห่งโปรตุเกสและอิงฟังตาอีซาแบล มารีอาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในขั้นต้นพระเจ้ามิเกลด้วยการสนับสนุนจากอิงฟังตามารีอา เทเรซา พระเชษฐภคินีพระองค์โตทำการถอดถอนสมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 2 ผู้เป็นพระภาติยะออกจากราชบัลลังก์และถอดถอนอิงฟังตาอีซาแบล มารีอาออกจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่ในท้ายที่สุดฝ่ายเสรีนิยมเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ผลที่ตามมาคือพระเจ้ามิเกลถูกเนรเทศออกจากประเทศอีกครั้ง และการครองราชบัลลังก์ครั้งที่สองของสมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 2
อิงฟังตาอีซาแบล มารีอาทรงเลิกยุ่งเกี่ยวในการเมืองและหันมาอุทิศพระองค์แก่พระศาสนา พระนางสิ้นพระชนม์โดยไม่ได้อภิเษกสมรสในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2419 ณ เบนฟิกา ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส สิริพระชนมายุ 74 พรรษา พระศพได้ถูกฝังที่วิหารหลวงแห่งพระราชวงศ์บราแกนซา