ข้ามไปเนื้อหา

มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Nausicaä of the Valley of the Wind)
มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม
ชื่อเรื่องภาพยนตร์
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ風の谷のナウシカ
การถอดเสียง
เฮ็ปเบิร์นปรับปรุงKaze no Tani no Naushika
กำกับฮายาโอะ มิยาซากิ
บทภาพยนตร์ฮายาโอะ มิยาซากิ
สร้างจากมหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม
โดย ฮายาโอะ มิยาซากิ
อำนวยการสร้างอิซาโอะ ทาคาฮาตะ
นักแสดงนำ
กำกับภาพ
  • โคจิ ชิรางามิ
  • ยูกิโทโมะ ชูโดะ
  • ยาสุฮิโระ ชิมิซุ
  • มาโมรุ สุงิอุระ
ตัดต่อ
  • โทโมโกะ คิดะ
  • นาโอโกะ คาเนโกะ
  • มาซัทสึกุ ซาคาอิ
ดนตรีประกอบโจ ฮิซาอิชิ
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายบริษัทโทเอ
วันฉาย11 มีนาคม ค.ศ. 1984 (1984-03-11)(ญี่ปุ่น)
ความยาว117 นาที
ประเทศญี่ปุ่น
ภาษาญี่ปุ่น
ทุนสร้าง180 ล้านเยน (758,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
ทำเงิน14.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม (ญี่ปุ่น: 風の谷のナウシカโรมาจิKaze no Tani no Naushika) เป็นภาพยนตร์อนิเมะญี่ปุ่นแนวหลังหายนะและแฟนตาซี ฉายเมื่อ ค.ศ. 1984 เขียนบทและกำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ สร้างจากมังงะชื่อเดียวกันของเขาเมื่อ ค.ศ. 1982–94 ภาพยนตร์สร้างโดยท็อปคราฟต์ และจัดจำหน่ายโดยบริษัทโทเอ ผู้แต่งเพลงประกอบ โจ ฮิซาอิชิ ร่วมงานกับมิยาซากิครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องนี้ ให้เสียงตัวละครโดย สึมิ ชิมาโมโตะ, โกโร นายะ, โยจิ มัตสึดะ, โยชิโกะ ซาคาคิบาระและอิเอะมาซะ คายูมิ[1] ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องในโลกอนาคตหลังนิวเคลียร์ เล่าเรื่องราวของ นาอุซิกา (ชิมาโมโตะ) เจ้าหญิงวัยรุ่นแห่งหุบเขาแห่งสายลมที่พัวพันกับการต่อสู้กับโทลเมเกีย อาณาจักรที่พยายามใช้อาวุธโบราณเพื่อกำจัดป่าที่เต็มไปด้วยแมลงกลายพันธุ์ขนาดยักษ์

ภาพยนตร์ฉายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1984 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ โดยชมในส่วนของเนื้อเรื่อง, แก่นเรื่อง, ตัวละครและแอนิเมชัน ภาพยนตร์เป็นอะนิเมะญี่ปุ่นยอดเยี่ยมเป็นอันดับสองจากการสำรวจที่เผยแพร่โดยหน่วยงานด้านกิจการวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 2007[2] ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะสร้างก่อนสตูดิโอจิบลิจะก่อตั้ง แต่ก็มักถูกมองว่าเป็นงานของจิบลิและวางหน่ายร่วมกันในรูปแบบดีวีดีและบลูเรย์[3]

เรื่องย่อ[แก้]

เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วง 1,000 ปีหลังจากเหตุการณ์ "Seven Days of Fire" เหตุการณ์ที่ทำลายอารยธรรมมนุษย์และระบบนิเวศของโลก กลุ่มผู้คนที่กระจัดกระจายถูกแบ่งแยกจากกลุ่มอื่นด้วย "ทะเลเน่า (Sea of Decay)" (fukai ในภาษาญี่ปุ่น) เกิดป่าของเชื้อรามีพิษ ที่เป็นศูนย์ของเหล่าแมลงขนาดยักษ์มากมาย มนุษย์จำเป็นต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกันไอพิษจากป่า นาอุซิกา (Nausicaä) เป็นชื่อของเจ้าหญิงในประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ ณ หุบผาสายลม ดำเนินชีวิตอยู่อย่างสงบสุขบนผืนดินที่ยังอุดมสมบูรณ์ผืนน้อยๆ นาอุซิกา พยายามที่จะค้นหาสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ และหวังจะหาหนทางในการอยู่ร่วมกัน แต่ผู้คนในเมืองอื่นๆ กลับไม่เห็นด้วยและต้องการทำลายล้างป่าและ Sea of Decay จนเกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่ กับภารกิจของเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่มีภารกิจแห่งการประนีประนอม

ท้ายที่สุดแล้ว นาอุซิกา (Nausicaä) ได้พบว่าภายใต้ป่านั้นมีอากาศบริสุทธิ์ และแท้จริงแล้วป่าได้ช่วยกรองพิษซึ่งก่อให้เกิดแหล่งน้ำสะอาดใต้พื้นดิน

มังงะ[แก้]

เนาซิก้า เวอร์ชันมังงะของมิยาซากิ ถูกเขียนขึ้นมากว่า 13 ปี ก่อนจะหยุดไปเพื่อทำภาพยนตร์กับสตูดิโอจิบลิ ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Animage ของโทคุมะ โชเท็น ซึ่งตอนแรกได้รับตีพิมพ์ในเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 และตอนสุดท้ายในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2527 ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องราวในมังงะนั้นไปไกลและซับซ้อนกว่าในภาพยนตร์มากทีเดียว ในภาพยนตร์ เป็นการเล่าเรื่องอย่างหยาบๆ ซึ่งตรงกับ 1 ใน 4 ส่วนแรกของมังงะ และมีการปรับเปลี่ยนเรื่องบางส่วนให้เข้ากับความเป็นภาพยนตร์

จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ – สีสันของสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในมังงะจะมีความสลับซับซ้อนกว่าในภาพยนตร์ เนาซิก้า เป็นตัวละครที่แสดงการมีพลัง มีอำนาจ ขณะที่แง่มุมด้านทักษะความสามารถไม่ค่อยได้รับการขยายความมากนัก

Mehve[แก้]

Mehve (ญี่ปุ่น: メーヴェ) มีความหมายถึงเครื่องบิน/เครื่องร่อนที่นั่งหรือโดยสารได้คนเดียว แม้ไม่ได้ติดอาวุธ แต่นักบินก็สามารถกว้างหรือหย่อนระเบิดลูกเล็ก เพื่อสร้างความสับสนให้กับศัตรูได้ มีความยาวปีกถึงปีกอยู่ที่ 4 เมตรโดยประมาณ ไม่มีสิ่งป้องกันตัวเมื่อนักบินร่อนอยู่ในอากาศ แม้ว่าคุณสมบัติการใช้งานของมันจะไม่กระจ่างชัดนัก มันก็เคลื่อนได้ช้าเพียงพอที่นักบินจะขึ้นไปและควบคุมมันโดยไม่ต้องใช้อะไรอื่นนอกจากสองแขนและน้ำหนักตัว mehve ยังมีคุณสมบัติ V/STOL คือมีระยะการบินขึ้นและลงจอดที่สั้น ชื่อ 'mehve' ของมันมาจากคำภาษาเยอรมันว่า 'Möwe' ซึ่งหมายถึง 'นกนางนวล' เป็นชื่อได้มาจากรูปร่างและสีขาวของมัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า หุบผาสายลม อยู่ใกล้กับทะเล ดังนั้น จะมีลมที่พัดจากทะเลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยป้องกันผู้คนจากบรรยากาศที่เป็นพิษของทะเลเน่าได้ และเมื่อเร็วๆ นี้ Japanese-led OpenSky Project สามารถผลิต Mehve ที่ใช้งานจริงได้แล้ว[4]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Kaze No Tani No Naushika". bcdb.com, 13 May 2012
  2. "Best Anime Ranking". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 July 2012. สืบค้นเมื่อ 29 November 2012.
  3. "Ghibli 101 FAQ // Studio Ghibli //". Nausicaa.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 June 2011. สืบค้นเมื่อ 28 March 2011.
  4. OpenSky (ญี่ปุ่น)

[Www.google.com]