คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ประเทศไทย)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันของประเทศไทย ซึ่งมีการบัญญัติไว้ในมาตรา 200 ถึง 214 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 273 ได้กำหนดให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ทำหน้าที่ต่อไปและให้การพ้นจากตำแหน่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560[แก้]

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 200 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกามาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี ซึ่งได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จํานวน 3 คน
  2. ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการศาลปกครองสูงสุดมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งได้รับคัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดโดยวิธีลงคะแนนลับ จำนวน 2 คน
  3. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ ซึ่งได้รับสรรหาจากผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 1 คน
  4. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งได้รับสรรหาจากผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ จำนวน 1 คน
  5. ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการสรรหาจากผู้รับหรือเคยรับราชการ ในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี จำนวน 2 คน

ผู้ได้รับการคัดเลือกหรือสรรหาต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา[1]

อีกทั้งตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 24/2560 ให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีมาก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หากในกรณีพ้นจากตำแหน่งจากการครบวาระ ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ[2] ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ในบทเฉพาะกาลกำหนดว่าตุลาการที่หมดวาระแล้วให้ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่จนกว่าจะมีการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่แล้วเสร็จ

รายชื่อประธานศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560[แก้]

ประธานศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ลำดับ ชื่อ - สกุล ที่มา การดำรงตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ หมายเหตุ
เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ พ้นจากตำแหน่ง
1 นุรักษ์ มาประณีต คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 9 กันยายน พ.ศ. 2557 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ครบวาระ * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
2 วรวิทย์ กังศศิเทียม คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 1 เมษายน พ.ศ. 2563 18 มีนาคม พ.ศ. 2567 ครบวาระ
3 นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 อยู่ในวาระ *เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2567
แหล่งอ้างอิง : [3][4][5]

รายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560[แก้]

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ชื่อ - สกุล ที่มา การดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หมายเหตุ
เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ พ้นจากตำแหน่ง
ชัช ชลวร คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ครบวาระ * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ศ.(พิเศษ) จรัญ ภักดีธนากุล ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ครบวาระ * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
บุญส่ง กุลบุปผา คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ครบวาระ * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
อุดมศักดิ์ นิติมนตรี คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ลาออก * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556 27 มกราคม พ.ศ. 2566 ครบวาระ * ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์อื่น 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 18 มีนาคม พ.ศ. 2567 เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ดร.ปัญญา อุดชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 อยู่ในวาระ
เรือโท อุดม สิทธิวิรัชธรรม คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 1 เมษายน พ.ศ. 2563 อยู่ในวาระ
วิรุฬห์ แสงเทียน คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 1 เมษายน พ.ศ. 2563 อยู่ในวาระ
ศ.(พิเศษ) จิรนิติ หะวานนท์ คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 1 เมษายน พ.ศ. 2563 อยู่ในวาระ
นภดล เทพพิทักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ 1 เมษายน พ.ศ. 2563 อยู่ในวาระ
บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563 อยู่ในวาระ
ศ.อุดม รัฐอมฤต ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 28 มกราคม พ.ศ. 2566 อยู่ในวาระ
สุเมธ รอยกุลเจริญ คัดเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 19 มีนาคม พ.ศ. 2567[6] อยู่ในวาระ
แหล่งอ้างอิง : [3][7][8][9][10]

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ[แก้]

ยุบพรรคไทยรักษาชาติ[แก้]

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ "เอกฉันท์" ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และคณะกรรมการบริหารพรรคถูกสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากการที่พรรคไทยรักษาชาติเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค[11] ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา[แก้]

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็น "เอกฉันท์" วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ถือว่าเป็น "เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ"[12]

การพ้นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ[แก้]

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ว่านาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน ส่งผลให้เป็นผู้ลักษณะต้องห้ามไม่ให้ผู้ถูกร้องใช้สิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้สมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย[13]

ยุบพรรคอนาคตใหม่[แก้]

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคกู้ยืมเงินจำนวน 191.2 ล้านบาท[14] และศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 [15] และมาตรา 92 วรรคสอง ประกอบหนึ่ง (3)[14]

คดีพักบ้านหลวงของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา[แก้]

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ขาดคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรี จากกรณีพักอาศัยในบ้านพักข้าราชการทหารแม้เกษียณอายุไป 6 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นไปตามระเบียบภายในของกองทัพบก ปี พ.ศ. 2548 และยังชี้ว่ารัฐพึงจัดสรรที่พำนักให้ผู้นำประเทศ "เพื่อสร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกายและจิตใจในการปฏิบัติภารกิจในการบริหารประเทศล้วนเป็นประโยชน์ส่วนรวม"[16]

การชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเป็น "การล้มล้างการปกครองฯ"[แก้]

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมติเสียง 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า การชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 มี "เจตนาซ่อนเร้นล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิใช่เป็นการปฏิรูป"[17] ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า การใช้สิทธิเสรีภาพของผู้ถูกร้อง (อานนท์ นำภา ภาณุพงศ์ จาดนอก และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล) ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย เป็นการอ้างสิทธิเสรีภาพเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงหลักเสมอภาค และภราดรภาพ อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญยังสั่งการให้ผู้ถูกร้อง 3 คน คือ อานนท์ นำภา ภาณุพงศ์ จาดนอก และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล รวมทั้งกลุ่มองค์กร เครือข่าย เลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย[18]

ศาลรัฐธรรมนูญระบุด้วยว่า ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ 10 ข้อ ในเวทีการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 กระทบต่อสถานะของสถาบันกษัตริย์[18]

การขัดรัฐธรรมนูญของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448[แก้]

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ) มาตรา 1448 ที่กำหนดเรื่องการรับรองสมรสเฉพาะชายและหญิงนั้น ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเสมอภาค แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีข้อสังเกตว่ารัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสมควรดำเนินการตรากฎหมายเพื่อรับรองสิทธิและหน้าที่ของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อไป[19]

วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา[แก้]

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน ที่ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้พิจารณา และมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้ผู้ถูกร้อง (พล.อ. ประยุทธ์) หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี[20]

จากนั้นวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งยังไม่ครบ 8 ปี โดยให้เริ่มนับความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560 อันเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้[21]

การคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง[แก้]

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ชี้ขาดคำว่า “ราษฎร” ไม่ได้หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งนำคนที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566[22]

การพ้นสมาชิกภาพของสมาชิกรัฐสภา[แก้]

ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกรัฐสภาหลายคนพ้นสมาชิกภาพ เช่น สิระ เจนจาคะ หลังถูกจำคุกตามคำพิพากษาศาลในคดีฉ้อโกง[23] รวมทั้งชุมพล จุลใส, อิสสระ สมชัย, ถาวร เสนเนียม, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เนื่องจากมีข้อเท็จจริงปรากฏว่าบุคคลทั้ง 5 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล[24] [25] ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ เนื่องจากกรณีถือครองหุ้นสื่อ[26] เทพไท เสนพงศ์ หลังถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัดสินให้มีความผิด คดีทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมื่อปี พ.ศ. 2557[27] สำลี รักสุทธี เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาเกี่ยวกับทรัพย์[28] และระวี รุ่งเรือง สมาชิกวุฒิสภา เหตุเคยถูกไล่ออกจากราชการ เข้าลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่ง[29]

แหล่งอ้างอิง[แก้]

  1. "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาจากไหน?". workpointTODAY. 24 พฤษภาคม 2562 สืบค้นเมื่อ 11 เมษายน 2566
  2. ราชกิจจานุเบกษา, คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๖๐ เรื่อง ให้งดเว้นการคัดเลือกหรือสรรหาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๓/๒๕๖๐ , เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๐๙ ง หน้า ๒๑, ๒๐ เม.ย. ๒๕๖๐
  3. 3.0 3.1 ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ [จำนวน ๕ ราย ๑. นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ฯลฯ], เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๙ ง หน้า ๑, ๖ เม.ย. ๒๕๖๓
  4. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๑๘๔ ง หน้า ๑, ๑๘ ก.ย. ๒๕๕๗
  5. ราชกิจจานุเบกษา.ประกาศแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ. เล่ม 141 ตอนพิเศษ 83ง หน้า 1 วันที่ 22 มีนาคม 2567.
  6. ราชกิจจานุเบกษา.ประกาศแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ. เล่ม 141 ตอนพิเศษ 83ง หน้า 1 วันที่ 22 มีนาคม 2567.
  7. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ [นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์], เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๐ ง หน้า ๑, ๒๕ พ.ย. ๒๕๕๘
  8. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ [นายปัญญา อุดชาชน] , เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๒๒ ง หน้า ๑, ๔ ธ.ค. ๒๕๕๘
  9. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ [นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์], เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๙๖ ง หน้า ๑, ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๓
  10. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ [นายอุดม รัฐอมฤต] , เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๒๑ ง หน้า ๑, ๓๐ ม.ค. ๒๕๖๖
  11. "มติเอกฉันท์ศาล รธน. สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" สถาบันฯ". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  12. "ศาลรัฐธรรมนูญชี้ หัวหน้า คสช. "ไม่เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ"". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  13. "ธนาธร-ศาลรัฐธรรมนูญ เปิดคำวินิจฉัย-คำโต้แย้ง กรณีหุ้นสื่อ". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  14. 14.0 14.1 "ด่วน! ยุบพรรค "อนาคตใหม่" ตัดสิทธิการเมือง กก.บห.10 ปีปมเงินกู้". Thai PBS.
  15. "อนาคตใหม่ : มติศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ กก.บห. 10 ปี". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  16. "สรุปคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กับ "ข้อต่อสู้หลัก" ที่ทำ พล.อ. ประยุทธ์ พ้นผิด "คดีพักบ้านหลวง"". BBC News ไทย. 2020-12-02.
  17. "ฉากทัศน์การเมืองไทยหลังคำวินิจฉัยศาล รธน. กรณี ชุมนุม 10 ส.ค. 63". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  18. 18.0 18.1 "ศาลรัฐธรรมนูญชี้ ชุมนุม 10 สิงหา 63 "ล้มล้างการปกครอง"". BBC News ไทย. 2021-11-10.
  19. "ศาลฯ วินิจฉัย ป.พ.พ.1448 สมรสได้แค่ชาย-หญิง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ '#สมรสเท่าเทียม' ติดเทรนด์ทวิต". workpointTODAY.
  20. "8 ปี ประยุทธ์ : ศาลรัฐธรรมนูญรับตีความ "นายกฯ 8 ปี" สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ. ประวิตรรักษาการแทน". BBC News ไทย. 2022-08-24.
  21. "เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ. ประยุทธ์ ไปต่อ ด้วยมติ 6:3 ชี้เป็นนายกฯ ไม่ครบ 8 ปี". BBC News ไทย. 2022-09-30.
  22. "ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคำว่า "ราษฎร" ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย". BBC News ไทย. 2023-03-03.
  23. "ลำดับความเป็นมาคดีฉ้อโกง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญสั่ง สิระ เจนจาคะ พ้น ส.ส." BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  24. "เปิด 7 ข้อโต้แย้งที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า "ฟังไม่ขึ้น" ก่อนสั่ง 5 อดีตแกนนำ กปปส. พ้น ส.ส." BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  25. "ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ให้ 5 อดีตแกนนำ กปปส. พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส." www.thairath.co.th. 2021-12-08.
  26. "ศาล รธน. ตัดสิน"กอล์ฟ ธัญญ์วาริน" ส.ส. LGBT ก้าวไกล พ้นสมาชิกภาพ". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2023-04-13.
  27. "ศาล รธน.วินิจฉัย 'เทพไท' พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ปชป.ให้เลือกตั้งใหม่ใน 45 วัน". www.thairath.co.th. 2021-01-27.
  28. "ศาลรธน. วินิจฉัย 'สำลี รักสุทธี' พ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภูมิใจไทย เหตุเคยต้องคำพิพากษา". workpointTODAY.
  29. ""ระวี รุ่งเรือง" หลุดเก้าอี้ ส.ว. ศาล รธน.ชี้เคยถูกไล่ออกจากราชการ ขาดคุณสมบัติ". mgronline.com. 2020-06-10.