การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย พ.ศ. 2567

การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย พ.ศ. 2567

15–17 มีนาคม พ.ศ. 2567
ลงทะเบียน	113,011,059
ผู้ใช้สิทธิ	77.49% ( 9.99pp)
ผู้ได้รับเสนอชื่อ วลาดีมีร์ ปูติน นีโคไล ฮารีโตนอฟ พรรค อิสระ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย พันธมิตร แนวร่วมประชาชนรัสเซียทั้งปวง คะแนนเสียง 76,277,708 3,768,470 % 88.48% 4.37%
ผลอย่างเป็นทางการตามหน่วยองค์ประกอบสหพันธ์
ประธานาธิบดีก่อนการเลือกตั้ง วลาดีมีร์ ปูติน อิสระ ว่าที่ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน อิสระ

โลโก้การเลือกตั้ง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีจัดขึ้นในประเทศรัสเซียระหว่างวันที่ 15 ถึง 17 มีนาคม พ.ศ. 2567 โดยเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 8 ของประเทศ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้ดำรงตำแหน่งได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 88 ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยุคหลังรัสเซียโซเวียต และครองตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ในสิ่งที่ถูกมองกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการสรุปมาก่อน เขามีกำหนดสาบานตนในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 โบริส นาเดียจดีน อดีตสมาชิกสภาดูมา กลายเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่จดทะเบียนเพื่อประกาศผู้สมัครรับเลือกตั้งของเขาโดยลงสมัครรับเลือกตั้งบนแพลตฟอร์มต่อต้านสงคราม ตามมาด้วยวลาดีมีร์ ปูติน ผู้ดำรงตำแหน่งและเป็นผู้สมัครอิสระในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งมีสิทธิ์ขอการเลือกตั้งใหม่อันเป็นผลมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน พ.ศ. 2563 ต่อมาในเดือนเดียวกัน เลโอนิด สลูซกีจากพรรคเสรีประชาธิปไตย นีโคไล ฮารีโตนอฟจากพรรคคอมมิวนิสต์ และ วลาดีสลัฟ ดาวันคอฟ จากพรรคโนวืยเอลูย์ดีได้ประกาศผู้สมัครรับเลือกตั้ง

ผู้สมัครคนอื่น ๆ ได้ประกาศผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ห้ามด้วยเหตุผลหลายประการ เช่นเดียวกับกรณีในการเลือกตั้งประธานาธิบดีใน พ.ศ. 2561 อะเลคเซย์ นาวัลนืย ผู้นำฝ่ายค้านที่โดดเด่นที่สุด ถูกห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีความผิดทางอาญาครั้งก่อนที่ถูกมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง นาวัลนืยเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง ภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัย ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางตัดสิทธิ์นาเดียจดีน แม้จะผ่านขั้นตอนเริ่มแรกของกระบวนการแล้ว การตัดสินใจดังกล่าวได้รับการประกาศในการประชุมพิเศษของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง โดยอ้างถึงสิ่งผิดปกติที่ถูกกล่าวหาในลายเซ็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งของเขา สถานะของนาเดียจดีนในฐานะผู้สมัครต่อต้านสงครามเพียงคนเดียวอย่างชัดเจนได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นเหตุผลที่แท้จริงสำหรับการตัดสิทธิ์ของเขา แม้ว่าดาวันคอฟสัญญาใน "สันติภาพและการเจรจาตามเงื่อนไขของเราเอง" ผลก็คือ ปูตินไม่ต้องเผชิญกับการต่อต้านที่น่าเชื่อถือ นักเคลื่อนไหวต่อต้านปูตินเรียกร้องให้ผู้ลงคะแนนทำลายบัตรลงคะแนนของตน การเลือกตั้งมีผู้ลงคะแนนเสียงบัตรเสียหรือบัตรเปล่า 1.4 ล้านใบ คิดเป็นประมาณร้อยละ 1.6 ของคะแนนเสียงทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2561

ผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหวังว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างเสรีหรือยุติธรรม โดยที่ปูตินมีการปราบปรามทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นหลังจากการทำสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครนใน พ.ศ. 2565 การเลือกตั้งยังจัดขึ้นในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครอง มีรายงานความผิดปกติ รวมทั้งการบรรจุบัตรลงคะแนนและการบังคับ จากการวิเคราะห์ทางสถิติของผลอย่างเป็นทางการ หนังสือพิมพ์ เมดูซา ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ "เป็นการฉ้อโกงที่สุด... ในประวัติศาสตร์รัสเซียสมัยใหม่"