ข้ามไปเนื้อหา

พระสวรรค์วรนายก (ทองคำ โสโณ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระสวรรค์วรนายก

(ทองคำ โสโณ)
ส่วนบุคคล
เกิดพ.ศ. 2420 (88 ปี ปี)
มรณภาพวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2508
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดสวรรคาราม สวรรคโลก สุโขทัย
อุปสมบทพ.ศ. 2440
พรรษา68 พรรษา
ตำแหน่งอดีตเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลกและสุโขทัย / อดีตเจ้าอาวาสวัดสวรรคาราม

พระสวรรค์วรนายก (ทองคำ โสโณ) เป็นอดีตเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลก [1] (กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศยุบจังหวัดสวรรคโลกให้ไปขึ้นกับจังหวัดสุโขทัย เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2482 ดังนั้นฐานะของเจ้าคุณสวรรค์วรนายก ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลก จึงเปลี่ยนเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยไปด้วย ) และเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวรรคาราม เกียรติคุณที่ปรากฏท่านเป็นพระผู้ที่ชอบสะสมวัตถุโบราณ ของเก่า เมื่อไปบวชเป็นพระอุปัชฌาย์ที่แห่งใด ญาติโยมที่เคารพนับถือได้ถวายวัตถุโบราณให้ท่าน ซึ่งต่อมาท่านได้ดำริในการมอบวัตถุโบราณให้กับทางราชการในการก่อตั้ง "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสวรรค์วรนายก" อันตั้งอยู่ที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน

ประวัติ[แก้]

พระสวรรค์วรนายก นามเดิม ทองคำ จิตรธร เป็นบุตรกำนันหนุน นางสายบัว จิตรธร เกิดที่หลังวัดสวรรคาราม ตำบลเมืองสวรรคโลก (เดิมเป็นตำบลพิณพาทย์ อำเภอวังไม้ขอน จังหวัดสวรรคโลก) อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เกิดเมื่อปีฉลู พ.ศ. 2420

พระสรรรค์รนายกมีพี่น้องร่วมบิตา มารตาเดียวกันเป็นชายทั้งสิ้นรวม 5 คน โดยท่านเป็นบุตรคนโต คือ

1. พระสวรรค์วรนายก

2. พระครูธรรมวโรทัย (เพชร จิตรธร)

3. หลวงพินิจสรรพากร์ (แจ่ม จิตรธร) รับราชการเป็นสรรพากรจังหวัดสวรรคโลก

4. นายเจิม จิตรธร เมื่อบวชมีฐานานุกรมว่า พระวินัยธร ชาวบ้านเรียกพระวินัยธรเจิม

5. นายบาง จิตรธร รับราชการเป็นเสมียนศาล จังหวัดสวรรคโลก

พี่น้องของท่านเจ้าคุณสรรค์นายก ได้มรณภาพและถึงแก่กรรมไปก่อน 3 คน คือพระครูธรมวโรทัยหลวงพินิจสรรพากร และนายเจิม จิตรธร ส่วนนายบาง จิตรธร ถึงแก่กรมภายหลังท่นเจ้าคุณสวรรค์วรนายกมรณภาพ

เมื่อเยาว์วัย ได้เรียนหนังสือกับพระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดกลาง (ซึ่งต่อมาได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นวัดสวรรคาราม[2])

บรรพชา อุปสมบท[แก้]

ด้วยระบบการศึกษาแต่เดิมเกิดในวัด เด็กชายทองคำจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อเข้ารับการศึกษาตามระบบบการศึกษาดั้งเดิม พร้อมทั้งได้มีโอกาสไปศึกษา และจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามกรุงเทพมหานคร เมื่ออายุได้ 20 ปี คือ พ.ศ. 2440 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 12 (ดำรงตำแหน่ง 6 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2481-พ.ศ. 2487 ) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ขณะที่ทรงสมณศักดิ์ที่พระศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "โสโณ" ท่านได้ขะมักเขม้นสนใจค้นคว้าศึกษาพระปริยัติธรรมมิได้ละเว้น ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นปลัด เรียกกันเป็นสามัญของผู้ที่คุ้นเคยว่า "พระปลัดคำ" เมื่ออุปสมบทได้ 10 พรรษา ตรงกับ พ.ศ. 2450 ได้รับสมณศักดิ์ที่พระครูสวรรค์วรนายก ต่อมาใน พ.ศ. 2476 พระครูสวรรค์วรนายก ได้รับสมณศักดิ์เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญดังปรากฏในสัญญาบัตรว่าให้พระครูสวรรค์วรนายก วัดสวรรคาราม จังหวัดสวรรคโลก เป็นพระราชาคณะมีนามว่า พระสวรรค์วรนายก ธรรมสาธกวินัยวาที สังฆปาโมกข์ [3][4]

ผลงานที่โดดเด่น[แก้]

ท่านได้รวบรวมศิลปวัตถุโบราณไว้จำนวนมาก และได้มีดำริที่จะจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เป็นมรดกแก่แผ่นดิน ซึ่งทางหน่วยงานราชการได้สนองเจตนารมณ์ท่านโดยการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขึ้น และเพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านจึงได้ใช้ให้นามว่า "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสวรรค์วรนายก" ตามพระราชทินนามสมณศักดิ์ขั้นสุดท้ายของท่าน โดยสิ่งที่ท่านรวบรวมไว้และจัดมอบให้แก่ทางพิพิธภัณฑ์ อาทิ

  • พระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธินาคปรก ศิลปะลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 18) [5]
  • พระพุทธรูปปางประทานธรรม ศิลปะอู่ทอง (พุทธศตวรรษที่ 18 – 19) [6]
  • พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 19) [7]
  • พระพุทธรูปปางประทานอภัย ศิลปะอยุธยา สกุลช่างกำแพงเพชร (พุทธศตวรรษที่ 21) [8]
  • พระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ 23) [9]
  • พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 19 – 20) [10]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 34 (0 ก): 34–44. 29 เมษายน 2460. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-07. สืบค้นเมื่อ 2011-05-07. จังหวัดสรรคโลกในขณะนั้นประกอบด้วยอำเภอเมือง อำเภอวังไม้ขร อำเภอด้ง อำเภอหาดเสี้ยว
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-12. สืบค้นเมื่อ 2011-09-20.
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-07. สืบค้นเมื่อ 2011-09-20.
  4. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=1102[ลิงก์เสีย]
  5. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=237สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]
  6. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=261สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]
  7. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=260สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]
  8. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=249สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]
  9. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=254สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]
  10. http://www.sukhothaiculture.com/cd/index.php?c=showitem&item=257สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมุลอื่น[แก้]