ราชวงศ์ถัง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ถัง

อาณาเขตของจักรวรรดิในช่วงแผ่ไพศาลที่สุดเมื่อ ค.ศ. 661[1][2][3]
  การปกครองฝ่ายพลเรือน
  การปกครองฝ่ายทหาร
  พื้นที่ที่เคยควบคุมในช่วงสั้น ๆ
สถานะจักรวรรดิ
เมืองหลวง
ภาษาทั่วไปจีนตอนกลาง
ศาสนา
การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์
จักรพรรดิ 
• ค.ศ. 618–626 (พระองค์แรก)
จักรพรรดิถังเกาจู่
• ค.ศ. 626–649
จักรพรรดิถังไท่จง
• ค.ศ. 712–756
จักรพรรดิถังเสฺวียนจง
• ค.ศ. 904–907 (พระองค์สุดท้าย)
จักรพรรดิถังไอ
ยุคประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกสมัยกลาง
18 มิถุนายน ค.ศ. 618
• แทรกโดยราชวงศ์อู่โจว
ค.ศ. 690–705
ค.ศ. 755–763
• การสละราชสมบัติให้แก่ราชวงศ์เหลียง
ยุคหลัง
1 มิถุนายน ค.ศ. 907
พื้นที่
ค.ศ. 715[4][5]5,400,000 ตารางกิโลเมตร (2,100,000 ตารางไมล์)
ประชากร
• คริสต์ศตวรรษที่ 7
50 ล้านคน
• คริสต์ศตวรรษที่ 9
80 ล้านคน
สกุลเงินเหรียญเงินสด
ก่อนหน้า
ถัดไป
ราชวงศ์สุย
รัฐข่านเตอร์กิกตะวันตก
รัฐข่านเตอร์กิกตะวันออก
ราชวงศ์เหลียง
ยุคหลัง
อาณาจักรอู๋ใต้
อาณาจักร
อู๋เยฺว่
อาณาจักรหมิ่น
อาณาจักรฉู่ยุคหลัง
ราชวงศ์เหลียว
รัฐข่านเตอร์กิกที่ 2
ราชวงศ์ถัง
"ราชวงศ์ถัง" ในอักษรฮั่น
ภาษาจีน唐朝
ฮั่นยฺหวี่พินอินTángcháo

ราชวงศ์ถัง (จีน: 唐朝[a]) หรือ จักรวรรดิถัง เป็นราชวงศ์ของจีนที่ปกครองตั้งแต่ ค.ศ. 618 ถึง ค.ศ. 907 โดยในช่วงสั้น ๆ ระหว่าง ค.ศ. 690 ถึง ค.ศ. 705 ราชวงศ์อู่โจวได้เข้ามาแทนที่การปกครองของราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ถังสืบเนื่องต่อจากราชวงศ์สุยและสิ้นสุดลงเป็นยุคห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร นักประวัติศาสตร์มักมองว่าราชวงศ์ถังเป็นจุดสูงสุดของอารยธรรมจีน และเป็นยุคทองของวัฒนธรรมสากล[7] ดินแดนของราชวงศ์ถังที่ได้มาจากการต่อสู้ทางทหารในช่วงต้น เทียบได้กับดินแดนของราชวงศ์ฮั่น

ตระกูลหลี่ได้ก่อตั้งราชวงศ์ขึ้นภายหลังราชวงศ์สุยเริ่มเสื่อมลงและล่มสลาย โดยในช่วงครึ่งแรกของราชวงศ์ถังเป็นสมัยแห่งความก้าวหน้าและความมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง แต่การปกครองภายใต้ราชวงศ์ถังถูกขัดจังหวะในระหว่าง ค.ศ. 690–705 เมื่อจักรพรรดินีบูเช็กเทียนแย่งชิงราชบัลลังก์ พร้อมทั้งสถาปนาราชวงศ์อู่โจว ทำให้พระองค์กลายเป็นจักรพรรดินีพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน ต่อมาในช่วงครึ่งหลังภายใต้ราชวงศ์ถัง ได้เกิดกบฏอัน ลู่ชาน (ค.ศ. 755–763) ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมลงของอำนาจราชสำนัก ราชวงศ์ถังยังคงใช้ระบบราชการเช่นเดียวกับราชวงศ์สุย โดยการคัดเลือกผ่านการสอบที่เป็นมาตรฐานและการรับรองการขึ้นตำแหน่ง แต่จากการเติบโตขึ้นของแม่ทัพทหารตามภูมิภาคต่าง ๆ หรือ "เจี๋ยตู้ฉื่อ" (節度使) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เริ่มบ่อนทําลายระบบราชการนี้ ราชสำนักและรัฐบาลกลางเข้าสู่ช่วงเสื่อมอำนาจลงในช่วงครึ่งหลังคริสต์ศตวรรษที่ 9 จากการเกิดกบฏชาวนาที่ส่งผลให้เกิดการสูญเสียและการพลัดถิ่นของประชากรจํานวนมาก ความยากจนที่แพร่กระจายมากขึ้น กอปรกับความขัดแย้งภายในรัฐบาลที่นำไปสู่การสิ้นสุดของราชวงศ์ถังใน ค.ศ. 907

ราชธานีของราชวงศ์ถังอยู่ที่ฉางอาน (ปัจจุบันคือซีอาน) ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยจากการสำรวจสำมะโนประชากรสองครั้งในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 8 สามารถประมาณการได้ว่าจักรวรรดิอาจมีประชากรอยู่ราว 50 ล้านคน[8][9] และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 80 ล้านคนในช่วงปลายราชวงศ์[10][11][b] ราชวงศ์ถังได้ยกระดับกองทัพมืออาชีพและเกณฑ์ทหารหลายแสนนายเพื่อต่อสู้กับอนารยชน ด้วยความต้องการที่จะควบคุมเอเชียส่วนในและเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ อาณาจักรหรือรัฐห่างไกลจำเป็นต้องถวายเครื่องราชบรรณาการให้แก่ราชสำนักถัง ในขณะที่ราชวงศ์ถังจะเข้าควบคุมทางอ้อมไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ผ่านระบบรัฐบรรณาการ นอกเหนือจากการใช้อำนาจครอบงำทางการเมืองแล้ว ราชวงศ์ถังยังมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่ออาณาจักรเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น

วัฒนธรรมจีนเจริญรุ่งเรืองและและเติบโตอย่างถึงขีดสุดในยุคราชวงศ์ถัง โดยถือเป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน[12] ซึ่งสองกวีที่โดดเด่นที่สุดของจีนอย่าง หลี่ ไป๋ และตู้ ฝู่ ก็ร่วมสมัยกับยุคนี้เช่นกัน ส่วนจิตรกรที่มีชื่อเสียง ได้แก่ หาน ก้าน, จาง สฺเวียน, และโจว ฝ่าง รวมถึงดนตรีราชสำนักจีนก็เฟื่องฟูด้วยเครื่องดนตรีเช่นผีผาที่เป็นที่นิยม นักปราชญ์ในสมัยราชวงศ์ถังได้รวบรวมวรรณคดีประวัติศาสตร์จำนวนมาก เช่นเดียวกับสารานุกรมและผลงานทางภูมิศาสตร์ นวัตกรรมที่โดดเด่นในสมัยนี้ คือ การพัฒนาการพิมพ์แบบแม่พิมพ์ไม้ พระพุทธศาสนาเริ่มมีอิทธิพลอย่างมากในวัฒนธรรมจีน โดยพุทธนิกายพื้นเมืองจีนได้รับความนิยมอย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษ 840 จักรพรรดิถังอู่จงได้ทรงประกาศนโยบายปราบปรามพุทธ ซึ่งนำไปสู่การลดอิทธิพลลงของศาสนาพุทธในเวลาต่อมา

ประวัติศาสตร์[แก้]

หลี่หยวนตั้งราชวงศ์[แก้]

ในรัชกาลของจักรพรรดิสุยหยางตี้ (隋煬帝)[13][14] เป็นรัชสมัยแห่งการกดขี่ราษฎรและความพ่ายแพ้ต่ออาณาจักรโคกูรยอของเกาหลีถึงสามครั้งทำให้ผู้คนพากันไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น ในค.ศ. 617 ผู้ว่ามณฑลไท่หยวน (太原) หลี่ยวน (李淵) ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็น ถังกว๋อกง (唐國公) ได้ยกทัพเข้าบุกยึดเมืองต้าเหิง (大興城) ราชธานีของราชวงศ์สุย ปลดจักรพรรดิหยางตี้ลงจากบัลลังก์เป็นไท่ซ่างหวง (太上皇) แล้วตั้งหยางหยู (楊侑) พระราชนัดดาเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปแทน พระนามว่า จักรพรรดิสุยกงตี้ (隋恭帝) แต่ก็ทรงเป็นเพียงแค่จักรพรรดิหุ่นเชิดอำนาจที่แท้จริงนั้นอยู่ที่หลี่หยวน ซึ่งได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นถังอ๋อง(唐王) [15][16]

มารดาของหลี่ยวนนั้น เป็นพระเชษฐภคินีของพระจักรพรรดินีตูกู จักรพรรดินีของจักรพรรดิสุยเหวินตี้ ในค.ศ. 618 หลี่หยวนพระเจ้าถังได้ล้มเลิกราชวงศ์สุยและตั้งราชวงศ์ถัง ขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถัง ภายหลังได้รับพระนามที่พระสุสานว่าจักรพรรดิถังเกาจู่ (唐高祖) คงราชธานีไว้ที่เดิมกับราชวงศ์สุยโดยเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองฉางอัน (長安) รวมทั้งตั้งพระโอรสองค์โตหลี่เจี้ยนเฉิง (李建成) เป็นองค์ชายรัชทายาท และพระโอรสองค์รองหลี่ซื่อหมิน (李世民) เป็นฉินอ๋อง (秦王) พระโอรสองค์ที่สาม หลี่หยวนจี๋ (李元吉) เป็นฉีอ๋อง (齊王) จักรพรรดิถังเกาจู พระโอรสทั้งสองพระองค์และพระธิดาองค์หญิงผิงหยาง (平陽公主) ได้ทำการสู้รบปราบชุมนุมต่าง ๆ ที่ตั้งตนเป็นใหญ่จนสามารถรวมจักรวรรดิจีนได้

พระเจ้าไท่หลี่ซื่อหมินมีพระปรีชาปราบปรามเจ้าท้องถิ่นต่าง ๆ ได้สร้างผลงานไว้มาก เมื่อสิ้นสุดสงครามแล้วจึงเกิดการแย่งราชสมบัติระหว่างหลี่ซื่อหมินกับองค์ชายรัชทายาทหลี่เจี้ยนเฉิง ในค.ศ. 626 ในเหตุการณ์ประตูเสฺวียนอู่ (玄武門) หลี่ซื่อหมินปลงพระชนม์องค์ชายรัชทายาทพระเชษฐาและพระเจ้าพระอนุชา จักรพรรดิเกาจู่พระบิดาจึงทรงไม่อาจทนได้ที่เห็นพระโอรสเข่นฆ่ากันเองจึงทรงสละราชสมบัติเป็นไท่ซ่างหว่าง ให้พระโอรสหลี่ซื่อหมิน เป็นจักรพรรดิถังไท่จง (唐太宗)

การขยายอำนาจของอาณาจักรถัง[แก้]

"เขตแดนยุคจักรพรรดิถังไท่จง" 616-649
การขยายอำนาจของจักรวรรดิถัง:
   ซันซี (617 : his father is governor, Taizong encouraged him to revolt.)
   Sui's China by 622-626.(618). Tang dynasty 618. Controlled all of Sui's China by 622-626.
   Submit the Oriental Turks territories (630-682)
   Tibetan's King recognizes China as their emperor(641-670)
   Submit the Occidental Turks territories (642-665)
(idem) add the Oasis (640-648 : northern Oasis ; 648 : southern Oasis)
   [Not shown in the map : Conquest of Goguryeo by his son (661-668)]
The two darkest area are truly the Chinese empire, the 3 lightest area are temporaly vasalised. Borders are not factual, they are indicatives.

ทิศเหนือ รบชนะพวกเติร์กมีอำนาจเหนือมองโกเลีย

ทิศตะวันออก มีอำนาจเหนือคาบสมุทรเกาหลี

ทิศใต้ มีอำนาจเหนือเวียดนาม

ทิศตะวันตก รบชนะพวกอุยกูร์(อุ้ยเก้อ)มีอำนาจเหนือซินเจียง,ทุ่งหญ้าสเตปป์,ทะเลสาบแคสเปียน

สถาปัตยกรรม[แก้]

เจดีย์ห่านใหญ่สถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์ถัง

สมัยราชวงศ์ถัง เป็นช่วงที่เศรษฐกิจและวัฒนธรรมในสังคมศักดินาพัฒนาเร็วที่สุด ลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถังคือมีขนาดใหญ่โต มีระบบระเบียบ ใช้สีไม่ค่อยมากแต่มีลายชัดเจน ในเมืองฉางอันเมืองหลวงสมัยราชวงศ์ถัง (เมืองซีอานในปัจจุบัน) และเมืองลั่วหยางเมืองหลวงทางตะวันออกของราชวงศ์ถังต่างก็เคยสร้างวังหลวงอุทยานและที่ทำการเป็นจำนวนมาก เมืองฉางอันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโลกในสมัยนั้น วังต้าหมิงในเมืองฉางอันใหญ่มาก เขตซากของวังนี้กว้างกว่ายอดจำนวนพื้นที่วังต้องห้ามสมัยหมิงและชิงในกรุงปักกิ่ง 3 เท่ากว่า ๆ สถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ในสมัยราชวงศ์ถังสวยมาก วิหารประธานในวัดโฝกวางเขต อู่ไถซาน มณฑลซานซี ก็คือสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถังที่เป็นแบบฉบับ นอกจากนี้สถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยอิฐและก้อนหินในสมัยราชวงศ์ถังก็ได้รับ การพัฒนาอีกขั้นหนึ่ง เจดีย์ห่านใหญ่ เจดีย์ห่านเล็กในเมืองซีอานและเจดีย์เชียนสุน ในเมืองต้าหลี่ต่างก็เป็นเจดีย์ที่สร้างด้วยอิฐและก้อนหิน

วัฒนธรรม[แก้]

บันเทิงคดี[แก้]

หนังสือการ์ตูน[แก้]

  • ฉางเกอสิง

วรรณกรรม[แก้]

ศาสนาและปรัชญา[แก้]

ในสมัยราชวงศ์ถัง พระภิกษุเสวียนจ้าง ได้เดินทางไปยังชมพูทวีป (อินเดียในปัจจุบัน) โดยใช้เส้นทางสายไหม ไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่มหาวิทยาลัยนาลันทา เป็นเวลา 14 ปี ซึ่งหลังจากเดินทางกลับมาประเทศจีนแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดห่านป่าใหญ่(大雁塔)ที่เมืองฉางอาน ท่านได้แปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีมาเป็นภาษาจีน ซึ่งเรื่องราวการเดินทางไปชมพูทวีปของพระภิกษุเสวียนจ้าง ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง หวู เฉิง เอิน กวีผู้เลื่องชื่อ ได้นำเรื่องราวนี้มาเขียนเป็นนิยายเรื่อง "ไซอิ๋ว" ในเวลาต่อมา ซึ่งถึอเป็น1ใน4สุดยอดนวนิยายอมตะของจีน โดยตัวละครในเรื่องไซอิ๋วนั้น เสวียนจ้างก็คือ "พระถังซัมจั๋ง" นั่นเอง

สิ่งประดิษฐ์[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

หมายเหตุ[แก้]

  1. บางแหล่งข้อมูลได้ใช้ชื่อ ต้าถัง (大唐, แปลว่า จักรวรรดิถัง) เพื่อกล่าวถึงราชวงศ์ถัง เช่นในชื่อของหนังสือหลายเล่มในสมัยนั้น[6]
  2. ในช่วงการปกครองของราชวงศ์ถัง ประชากรโลกเพิ่มขึ้นจากประมาณ 190 ล้านคน เป็นราว 240 ล้านคน

อ้างอิง[แก้]

  1. Blunden & Elvin (1983), pp. 26, 92–93.
  2. Twitchett & Wechsler (1979), p. 281.
  3. Shin (2014), pp. 39, 47.
  4. Turchin, Peter; Adams, Jonathan M.; Hall, Thomas D (December 2006). "East-West Orientation of Historical Empires". Journal of World-Systems Research. 12 (2): 222. ISSN 1076-156X.
  5. Taagepera, Rein (1997). "Expansion and Contraction Patterns of Large Polities: Context for Russia". International Studies Quarterly. 41 (3): 492. doi:10.1111/0020-8833.00053. JSTOR 2600793.
  6. Wilkinson 2013, p. 6.
  7. Lewis 2012, p. 1.
  8. Ebrey, Walthall & Palais 2006, p. 91.
  9. Ebrey 1999, pp. 111, 141.
  10. Du 1998, p. 37.
  11. Fairbank & Goldman 2006, p. 106.
  12. Yu 1998, pp. 73–87.
  13. Ebrey, Walthall & Palais 2006, pp. 90–91.
  14. Adshead 2004, pp. 40–41.
  15. Adshead 2004, p. 40.
  16. Graff 2000, p. 78.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ก่อนหน้า ราชวงศ์ถัง ถัดไป
ราชวงศ์สุย ราชวงศ์ในประวัติศาสตร์จีน
(ค.ศ. 618–907)
ยุคห้าวงศ์สิบรัฐ