จุรี โอศิริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จุรี โอศิริ
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472
จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม
เสียชีวิต24 มกราคม พ.ศ. 2555 (82 ปี)
อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
คู่สมรสเสนอ โกมารชุน
สมชาย สามิภักดิ์
บุตร2 คน
อาชีพนักร้อง
นักแสดง
นักพากย์
ปีที่แสดงพ.ศ. 2488 - 2555
ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง - ภาพยนตร์และละคร นักพากย์ พ.ศ. 2541
พระสุรัสวดีผู้พากย์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง โบตั๋น พ.ศ. 2500
ผู้พากย์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง นกน้อย พ.ศ. 2507
ผู้แสดงประกอบยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง วัยตกกระ พ.ศ. 2522
ผู้พากย์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง ไร้เสน่หา พ.ศ. 2522
ผู้พากย์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง เทพธิดาโรงงาน พ.ศ. 2525
โทรทัศน์ทองคำดาราสมทบยอดเยี่ยม จากละครโทรทัศน์เรื่อง สายโลหิต
เมขลาสาขารางวัลเกียรติคุณ พ.ศ. 2554
(หลังจากเสียชีวิต)
ThaiFilmDb

จุรี โอศิริ ชื่อเล่น จุ๊ หรือรู้จักโดยทั่วไปว่า “ป้าจุ๊” เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 เป็นนักร้อง เป็นผู้ประกาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นักพากย์ นักแสดงละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง 4 ครั้ง (สาขาผู้พากย์ยอดเยี่ยม 3 รางวัล และผู้แสดงประกอบยอดเยี่ยม 1 รางวัล) ได้รับเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักพากย์และนักแสดง) ประจำปีพุทธศักราช 2541[1]

ประวัติ[แก้]

จุรี โอศิริ เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 ที่กรุงเทพมหานคร บิดาชื่อเตียง โอศิริ มารดาชื่อเลมียด โอศิริ มีพี่น้อง 4 คน ส่วนตนเป็นบุตรคนที่ 2 นายเตียงผู้เป็นบิดา เป็นคนไทยคนแรก ๆ ที่ทำกิจการผลิตแผ่นเสียงในนามของห้างฮัมบวร์คสยาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผ่นเสียงตราสุนัขนั่งฟังลำโพงหีบเสียง (His Master 's Voice) ทำให้ได้ซึมซับกับบรรยากาศของเสียงเพลง ต่อมาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากร โดยจุรีมีความสนใจด้านการเต้นรำ เช่น บัลเล่ต์ และการร้องรำทำเพลงแบบสากลต่าง ๆ จึงได้เลือกเรียนเอกทางด้านนาฏศิลป์สากล และขับร้องเพลงสากล จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (เป็นนักเรียนนาฏศิลป์รุ่นเดียวกับนภา หวังในธรรมและจันทนา โอบายวาทย์)

เข้าสู่วงการ[แก้]

นักร้อง[แก้]

หลังจบการศึกษาจุรีสมัครเป็นพนักงานต้อนรับบนรถไฟในเวลาสั้นๆก่อนเข้าทำงานวงการบันเทิงเต็มตัวในหลากหลายด้าน เริ่มจากเป็นนักร้องหน้าม่าน สลับละครของคณะผกาวลีและคณะศิวารมย์ ได้มีโอกาสแสดงเป็นนางเอกในละครเพลงเรื่อง “นเรศวรมหาราช” และเข้าเป็นนักร้องประจำวงดุริยางค์ทหารบก ต่อมาย้ายมาเป็นนักร้องสังกัดวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงดนตรีสุนทราภรณ์ตามคำชักชวนของครูเอื้อ สุนทรสนาน

นักแสดง[แก้]

จุรีเคยผ่านงานแสดงมาบ้างแล้ว ในละครเวทีเรื่อง"ตะรุเตา"ของไถง สุวรรณทัตตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนาฏศิลป ต่อมาหลังละครเวทีซบเซานักแสดงละครเวทีหันมาแสดงภาพยนตร์กันเป็นส่วนใหญ่คุณจรี อมาตยกุลจึงมีแผนจะสร้างภาพยนตร์เรื่องสุภาพบุรุษจากอเวจีโดยวางตัวส.อาสนจินดาเป็นพระเอกแต่ยังขาดตัวนางเอกจึงมีคนแนะนำให้ไปดูตัวจุรี คุณจรีเห็นว่าหน้าตาพอใช้ได้และเคยมีประสบการณ์มาก่อนจึงชักชวนให้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกรับบทเป็นนางเอกในเรื่อง “สุภาพบุรุษจากอเวจี” กำกับการแสดงโดยครูเนรมิต[2]

นักพากย์[แก้]

เมื่อการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสุภาพบุรุษจากอเวจีซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอเสร็จสิ้นลง คุณจรี อมาตยกุลผู้อำนวยการสร้าง ต้องการหานักพากย์หญิงมาให้เสียงพากย์คู่กับเสน่ห์ โกมารชุนนักพากย์ฝ่ายชาย จึงลองชักชวนจุรีให้มาพากย์เสียงดู จุรีตอบตกลงทั้งๆที่ตัวเองยังไม่เคยพากย์เสียงเลยแต่เมื่อถึงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายจุรีได้ให้เสียงพากย์ตัวละครฝ่ายหญิงโดยใช้น้ำเสียงที่สื่ออารมณ์ของตัวละครได้ชัดเจน พร้อมกับใส่มุขให้ผู้ชมภาพยนตร์ได้มีอารมณ์ขันไปด้วย การพากย์เสร็จสิ้นลงด้วยดีจุรีเกิดชอบทางด้านพากย์เสียง จึงรับพากย์ให้กับดาราหญิงและเด็กทั้งหญิงชายในหลากหลายบทบาททั้งนางเอก นางรอง ตัวอิจฉา และตัวประกอบมากมายนับไม่ถ้วน อาทิ อมรา อัศวนนท์ รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง วิไลวรรณ วัฒนพานิช กัณฑรีย์ นาคประภา เพชรา เชาวราษฎร์ พิศมัย วิไลศักดิ์ ภาวนา ชนะจิต ขวัญตา บัวเปลี่ยนสี เยาวเรศ นิศากร มาเรีย จาง เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ลลนา สุลาวัลย์ ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ นันทนา เงากระจ่าง ชูศรี มีสมมนต์ สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต มาลี เวชประเสริฐ ล้อต๊อกน้อย เด็กหญิงบรรจง นิลเพชร ฯลฯ

ผลงานการพากย์เสียงของจุรี มีหลายคนที่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองและสุพรรณหงส์ทองคำ ได้แก่ สมจิต ทรัพย์สำรวย จากภาพยนตร์เรื่อง ยอดอนงค์ และ ค่าน้ำนม, ภาวนา ชนะจิต จากภาพยนตร์เรื่อง แสงสูรย์, พิศมัย วิไลศักดิ์ จากภาพยนตร์เรื่อง ดวงตาสวรรค์ ไร้เสน่หา และ เงิน เงิน เงิน, เนาวรัตน์ วัชรา จากภาพยนตร์เรื่อง เดือนร้าว, เพชรา เชาวราษฎร์ จากภาพยนตร์เรื่อง นกน้อย, เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ จากภาพยนตร์เรื่อง ตลาดพรหมจารีย์ และ อาอี๊, บุปผารัตน์ จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา จากภาพยนตร์เรื่อง ประสาท, ทาริกา ธิดาทิตย์ จากภาพยนตร์เรื่อง เหนือกว่ารัก, นิจ อลิสา จากภาพยนตร์เรื่อง เพื่อน-แพง, ล้อต๊อกน้อย จากภาพยนตร์เรื่อง ยอดอนงค์, เด็กหญิงบรรจง นิลเพ็ชร จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา และ มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช จากภาพยนตร์เรื่อง ป่ากามเทพ จุรีเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พากย์ภาพยนตร์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ในฝูงหงส์ สาวน้อย นกน้อย แม่นาคพระโขนง เป็นต้น

ตัวอย่างผลงาน[แก้]

ละครโทรทัศน์[แก้]

ภาพยนตร์[แก้]

  • สุภาพบุรุษจากอเวจี (2494)
  • หงส์หยก (2499)
  • มังกรทอง (2500)
  • กิโมโน (2502)
  • รุ้งเพชร (2504)
  • สกาวเดือน (2505)
  • ร้อยป่า (2507)
  • ดรุณีสีเลือด (2509)
  • แก้วกลางสลัม (2509)
  • เป็ดน้อย (2511)
  • ทับสะแก (2512)
  • สวรรค์เบี่ยง (2513)
  • ม้ามืด (2513)
  • โทน (2513)
  • เรือมนุษย์ (2513)
  • บ้านสาวโสด (2513)
  • แม่นาคพระนคร (2513)
  • จงอางผยอง (2514)
  • เขยตีนโต (2514)
  • วิวาห์พาฝัน (2514)
  • ไก่นา (2514)
  • เชียงตุง (2515)
  • พ่อปลาไหล (2515)
  • วิวาห์ลูกทุ่ง (2515)
  • สุดสายป่าน (2515)
  • จินตะหรา (2516)
  • แหวนทองเหลือง (2516)
  • เหยื่ออารมณ์ (2518)
  • คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ (2518)
  • ตะวันตกดิน (2518)
  • ฝ้ายแกมแพร (2518)
  • เหยื่ออารมณ์ (2518)
  • คมกุหลาบ (2519)
  • สวรรค์ยังมีชั้น (2519)
  • กูซิใหญ่ (2520)
  • รักเลือกไม่ได้ (2520)
  • หัวใจที่ไม่อยากเต้น (2520)
  • เทพธิดาบาร์ 21 (2521)
  • ยิ้มสวัสดี (2521)
  • วัยตกกระ (2521)
  • วันเพ็ญ (2521)
  • รักประหาร (2522)
  • ฟ้าผ่าวัดคณิกาแก้ว (2522)
  • รักริษยา (2522)
  • จากเธอที่เขาพิงกัน (2523)
  • หลวงตา (2523)
  • อีพริ้ง คนเริงเมือง (2523)
  • เด็ดหนวดพ่อตา (2524)
  • ดาวพระศุกร์ (2524)
  • รักครั้งสุดท้าย (2524)
  • รักครั้งแรก (2524)
  • คุณปู่ซู่ซ่า (2524)
  • สาวจอมกวน (2525)
  • เทพธิดาโรงงาน (2525)
  • พระเอกรับจ้าง (2525)
  • กระท่อมนกบินหลา (2525)
  • คุณย่าเซ็กซี่ (2525)
  • รักข้ามรุ่น (2525)
  • บัวขาว (2526)
  • รักกันวันละนิด (2526)
  • เจ้าสาวเงินล้าน (2526)
  • แม่ดอกกระถิน (2526)
  • วันนั้นคงมาถึง (2527)
  • สวัสดีคุณนาย (2527)
  • ซึมน้อยหน่อยกะล่อนมากหน่อย (2528)
  • ผู้ใหญ่ลีกับนางมา (2528)
  • หยุดโลกเพื่อเธอ (2528)
  • ข้างหลังภาพ (2528)
  • ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท (2529)
  • ยิ้ม (2529)
  • รักพลิกล็อก (2529)
  • ขบวนการคนใช้ (2529)
  • ท่านชายกำมะลอ (2529)
  • เกมส์มหาโชค (2529)
  • รักใคร่ (2530)
  • ปีกมาร (2530)
  • พลอยทะเล (2530)
  • แรงเทียน (2531)
  • นางกลางไฟ (2531)
  • คนกลางเมือง (2531)
  • บุญชูผู้น่ารัก (2531)
  • กองร้อยสอยรัก (2531)
  • รอยไถ (2532)
  • เศรษฐีใหม่ (2532)
  • บุญชู 2 น้องใหม่ (2532)
  • ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ (2532)
  • พริกขี้หนูกับหมูแฮม (2532)
  • บุญชู 5 เนื้อหอม (2533)
  • ภูตอเวจี (2533)
  • คนละวัยอลวน (2533)
  • เปลวไฟในตะวัน (2534)
  • ขอลูกแก้วเป็นพระเอก (2534)
  • บุญชู 6 โลกนี้ดีออกสุดสวยน่ารักน่าอยู่ ถ้าหงุ่ย (2534)
  • ครั้งนี้โลกก็ฉุดไม่อยู่ (2535)
  • เพราะฉะนั้น นั่นน่ะซี (2535)
  • บุญชู 7 รักเธอคนเดียวตลอดกาลใครอย่าแตะ (2536)
  • บุญชู 8 เพื่อเธอ (2538)
  • กล่อง (2541)
  • อั้งยี่ ลูกผู้ชายพันธุ์มังกร (2543)
  • ม.3 ปี 4 เรารักนาย (2552)

ละครเวที[แก้]

  • ตะรุเตา (2488)
  • หัวเราะกับน้ำตา (มณเฑียรทองเธียเตอร์)
  • กว่าจะรักกันได้ สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิกัล (2554)

คอนเสิร์ต[แก้]

  • สุนทราภรณ์ครึ่งศตวรรษ (2532)
  • จุรีอินคอนเสิร์ต (2547)
  • วันแห่งความรักของผู้ชายชื่อ เศรษฐา ศิระฉายา (2550)

ผลงานด้านการเขียน[แก้]

  • ป้าจุ๊อยากเล่า เล่ม 1 (2533)
  • เรื่องสั้นฝันหวาน (2534)
  • ป้าจุ๊อยากเล่า เล่ม 2 (2536)
  • โชคดีได้บินฟรีครึ่งโลก (2537) ผลงานการเขียนต่อเนื่องในนิตยสารสกุลไทย
  • โลกของจุรี โอศิริ (2542)
  • เรารักกัน (2552)
  • ตั้งแต่รู้จักกัน (2555)

มิวสิกวิดีโอ[แก้]

โฆษณา[แก้]

ผลงานเพลง[แก้]

  • เริงสุข (นำหมู่ร่วมกับมนัส รามโยธิน)
  • สิ้นแสงจันทร์
  • ปัญหามีคู่ (ขับร้องคู่กับชวลี ช่วงวิทย์)
  • ละครชีวิต (บุษยา รังสีนำมาบันทึกเสียงใหม่)

รางวัลและเกียรติคุณ[แก้]

จุรีได้รับรางวัลเกียรติยศ จากทั้งการพากย์ และการแสดงภาพยนตร์ ในหลายรางวัล ได้แก่

กิจกรรมเพื่อสังคม[แก้]

จุรีเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ มิได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงละครการกุศล การขับร้องเพลงในคอนเสิร์ตการกุศล และอื่นๆ ทั้งยังเป็นศิลปินอาวุโสที่ให้ความเมตตา ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่ดารารุ่นหลัง จึงเป็นที่เคารพรักใคร่ ของบรรดาศิลปินรุ่นน้อง และรุ่นลูกหลานทั้งหลาย ที่สำคัญก็คือ จุรีเป็นดาราผู้มีภาพพจน์ดีงาม เป็นที่ชื่นชมของแฟนๆ ภาพยนตร์ และละครทั่วประเทศ ทุกเพศทุกวัยมาเป็นเวลายาวนาน คุณสมบัติที่ดีเด่นอีกประการหนึ่งคือ เป็นผู้ที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง นับเป็นแบบอย่างที่ดี แก่นักแสดงอื่นๆ และประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ชีวิตส่วนตัวและบั้นปลาย[แก้]

ด้านชีวิตครอบครัว สมรสและใช้ชีวิตคู่ครั้งแรก กับ เสนอ โกมารชุน (พี่ชายของ เสน่ห์ โกมารชุน) มีบุตรชาย 2 คนคือ นายจามร โกมารชุน (ถึงแก่กรรม) และ นพพล โกมารชุน หลังจากสามีเสียชีวิต ก็ใช้ชีวิตคู่กับสมชาย สามิภักดิ์ มาเป็นเวลา 50 กว่าปี จนกระทั่งสมชายถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

จุรีเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 ที่บ้านพักใน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย สิริอายุได้ 83 ปี 2 เดือนเศษ[3] ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร[4][5]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ศิลปินแห่งชาติ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-26. สืบค้นเมื่อ 2007-07-15.
  2. นิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2414 ปีที่ 47 ประจำวันอังคารที่ 23 มกราคม 2544 เก็บถาวร 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เขียนโดย นิติกร กรัยวิเชียร
  3. "ป้าจุ๊" จุรี โอศิริ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 83 ปี ตั้งศพบำเพ็ญกุศลวัดมกุฏกษัตริยาราม เก็บถาวร 2012-03-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน มติชน
  4. ข่าวพระราชสำนัก ช่อง 7
  5. ข่าวพระราชสำนัก[ลิงก์เสีย] ช่อง 3
  6. ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ (ประจำปี ๒๕๔๒ ศิลปินแห่งชาติ) เล่ม ๑๑๖ ตอน ๒๑ ข ๒ ธันวาคม ๒๕๔๒ หน้า ๒๓.